กกพ. เตรียมออกเกณฑ์รับซื้อไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อป นำร่อง 100 เมกะวัตต์ที่ราคา 1.80 บาทต่อหน่วย

กองบรรณาธิการ TCIJ 18 ธ.ค. 2561 | อ่านแล้ว 4944 ครั้ง

กกพ. เตรียมออกเกณฑ์รับซื้อไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อป นำร่อง 100 เมกะวัตต์ที่ราคา 1.80 บาทต่อหน่วย

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เตรียมออกระเบียบรองรับโครงการโซลาร์รูฟท็อปเสรีและรูฟท็อปภาคประชาชน ภายใน 1 สัปดาห์หลังคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ผ่านการพิจารณาแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าประเทศ (PDP) ใหม่ ในวันที่ 7 ม.ค. 2562 เบื้องต้นกำหนดรับซื้อไฟฟ้าจากโซลาร์ภาคประชาชนไม่เกิน 10 KVA (กิโลโวลต์แอมป์) ต่อบ้านหนึ่งหลัง โดยจะนำร่องรับซื้อก่อน 100 เมกะวัตต์ คาดอัตรารับซื้อที่ 1.80 บาทต่อหน่วย ที่มาภาพประกอบ: Energy News Center

Energy News Center รายงานเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2561 ว่านายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ.เตรียมออกระเบียบรองรับการเปิดโครงการผลิตไฟฟ้าบนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) เสรี และโซลาร์รูฟท็อปภาคประชาชน ซึ่งโครงการดังกล่าวบรรจุอยู่ในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าประเทศ (PDP) ฉบับใหม่ ที่จะเข้าสู่การประชุมของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่กำหนดไว้ในวันที่ 7 ม.ค. 2562 โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยหากผ่านการพิจารณาของ กพช. แล้ว ทาง กกพ.จะใช้เวลา 1 สัปดาห์ ออกประกาศระเบียบรองรับโครงการดังกล่าว และจะเปิดรับฟังความเห็นต่อกฎระเบียบเป็นเวลา 15 วัน

เบื้องต้น โครงการโซลาร์รูฟท็อปภาคประชาชน จะกำหนดให้ประชาชนขายไฟฟ้าเข้าระบบได้ไม่เกิน 10 KVA (กิโลโวลต์แอมป์) ต่อบ้าน 1 หลัง และสามารถจ่ายไฟฟ้าย้อนกลับเข้าหม้อแปลงได้ไม่เกิน 15% อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นคาดว่าภาครัฐจะนำร่องทดลองรับซื้อไฟฟ้าประมาณ 100 เมกะวัตต์ก่อน

ส่วนโครงการโซลาร์รูฟท็อปเสรี เป็นการผลิตไฟฟ้าของภาคอุตสาหกรรมที่ผลิตเพื่อใช้เองเป็นส่วนใหญ่ และไม่ได้ขายไฟฟ้าส่วนเกินเข้าระบบนั้น ปัจจุบันมีการผลิตเพื่อใช้เองหลายรายแล้ว โดย กกพ. ต้องเร่งออกกฎระเบียบให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และต้องพิจารณาว่าจะเก็บค่าสำรองไฟฟ้า (Backup) หรือไม่ และกำหนดระเบียบอย่างไรเพื่อไม่ให้กระทบต่อความมั่นคงไฟฟ้าประเทศ

แหล่งข่าว กกพ. กล่าวว่าสำหรับราคารับซื้อไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อปภาคประชาชนนั้น เบื้องต้นมีการหารือกันที่อัตรา 1.80 บาทต่อหน่วย เนื่องจากเป็นอัตราที่ไม่มีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าโดยรวมของประเทศ โดยพิจารณามาจากอัตราค่าไฟฟ้า 2 กรณี คือ 1.กรณีราคาผลิตไฟฟ้าเพื่อความมั่นคงประเทศราคาจะอยู่ที่ประมาณกว่า 2 บาทต่อหน่วย เช่น โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ โรงไฟฟ้าถ่านหิน เป็นต้น และ 2. โรงไฟฟ้าที่ไม่รวมค่าความมั่นคงไว้จะอยู่ที่ 1.80 บาท โดยหากรับซื้อแพงกว่านี้จะมีผลกระทบต่อภาระค่าไฟฟ้าที่ภาครัฐเอาไปชดเชยให้และเป็นภาระโดยรวมต่อค่าไฟฟ้าประเทศได้ อย่างไรก็ตามอัตราดังกล่าวจะนำมาใช้ในโครงการโซลาร์รูฟท็อปภาคประชาชนหรือไม่นั้น ขณะนี้ภาครัฐยังอยู่ระหว่างการพิจารณา

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: