DSI ระบุปี 2560 พบประชาชนถูกมิจฉาชีพหลอกเสียหาย 3,000 ล้านบาท แนวโน้มของการหลอกลวงจากกลุ่มวิชาชีพยังมีอย่างต่อเนื่อง ที่มาภาพประกอบ: Pixabay/geralt (CC0)

เว็บไซต์ moneychannel.co.th รายงานเมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2561 ว่าพันตำรวจเอกไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI บอกว่าตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน การหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อและนำไปสู่การสูญเสียทรัพย์สิน ที่ผ่านการดูแลของ DSI มีมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท และแนวโน้มของการหลอกลวงจากกลุ่มวิชาชีพยังมีอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น DSI จึงได้ร่วมมือกับธนาคารธนชาต ในการให้ความสำคัญกับการสร้างความรับรู้ความเข้าใจและรู้ทันพฤติกรรมของกลุ่มวิชาชีพที่มักสร้างเรื่องหลอกลวงให้ประชาชนหลงเชื่อ โดยได้จัดทำโครงการรู้จักกลลวง รู้ทันมิจฉาชีพ ปลอดภัยทางการเงินเพื่อป้องกันและเตือนภัยประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของคนที่ไม่สุจริต

ด้านนายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารธนชาตบอกว่าธนาคารให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิทธิประโยชน์ของลูกค้า จึงได้ร่วมมือกับ DSI รับมือกับกลลวงทางการเงินในปัจจุบันมีหลายรูปแบบโดยได้จัดทำโครงการดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนสามารถรับมือและป้องกันตัวเองได้เมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์ เพราะสาเหตุหลักที่ประชาชนถูกหลอกลวงเกิดจากการรู้ไม่เท่าทันมิจฉาชีพ

นายสมเจตน์ ยังบอกถึงกรณีที่ธนาคารประกาศยกเลิกค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมผ่านโมบายแบงก์กิ้ง รวมถึง พ.ร.บ.เกี่ยวกับธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์แก่บุคคลทั่วไป ที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2561 เป็นต้นไป ว่าจะไม่มีผลกระทบต่อรายได้และผลการดำเนินงานของธนาคารมากนักเนื่องจากธนาคารมีรายได้จากส่วนอื่นเข้ามาทดแทน มีธุรกิจที่หลากหลายแต่แนวทางดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะผู้บริโภคจะได้ประโยชน์