สผ.ยืนยัน 'บริษัท ซี วิว แลนด์ จำกัด' เจ้าของโครงการท่าเทียบเรือสำราญและกีฬาอ่าวกุ้งมารีน่า ยอมถอนรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA จากการพิจารณาของ สผ.แล้ว ถือสิ้นสุดกระบวนการพิจารณา หากจะเดินหน้าต้องทำรายงานฉบับใหม่ ชี้ คชก.เคยลงพื้นที่พบทุ่งปะการัง ตามที่ชาวบ้านร้องเรียน ที่มาภาพ: กลุ่มรักษ์อ่าวกุ้ง รักษ์ปะการัง ป่าชายเลน Save Aokung save the Sea

Thai PBS รายงานเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2561 ที่ผ่านมาว่า เฟซบุ๊กกลุ่มรักษ์อ่าวกุ้ง รักษ์ปะการัง ป่าชายเลน Save Aokung save the Sea ได้โพสต์ข้อความว่า ขอแจ้งความคืบหน้าโครงการท่าเทียบเรือยอร์ชอ่าวกุ้งดังนี้ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.)ได้ทำหนังสือแจ้งมายังประธานกลุ่มอนุรักษ์ฯ ว่าทางโครงการ ได้ขอถอนรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอแล้ว เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2561 ที่ผ่านมา

"ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอน นั่นหมายความว่า หากจะมีการกระทำหรือกิจกรรมใดๆ ในพื้นที่ดังกล่าว จะต้องเริ่มต้นกระบวนการทำอีไอเอกันใหม่”

Thai PBS ได้สัมภาษณ์นายสุโข อุบลทิพย์ รองเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยา กรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยืนยันว่า ทางบริษัทเอ็นริช คอนซัลแตนท์ จำกัด ซึ่งได้รับมอบหมายจากบริษัทซีวิว แลนด์ จำกัด จัดทำรายงานอีไอเอ โครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญและกีฬาอ่าวกุ้งมารีน่า ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้ขอถอนรายงานอีไอเอแล้ว

“เหตุผลที่ถอนอีไอเอ เพราะต้องการจะนำไปปรับปรุงแก้ไขแก้ไขรายละเอียดต่างๆให้ครบถ้วน ดังนั้นจึงถือว่าอีไอเอฉบับนี้สิ้นสุดขั้นตอนการพิจารณาของคชก. และสผ.แล้ว แต่หากจะเสนออีไอเอเล่มใหม่มา ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่”
รองเลขาธิการสผ.กล่าวว่า ตามขั้นตอนถึงแม้จะมีการถอนรายงานอีไอเอฉบับเดิมไปแล้ว เจ้าของโครง การยังสามารถไปทำรายงานอีไอเอฉบับใหม่เข้ามาพิจารณา แต่ต้องไม่ใช้เนื้อหาเก่า โดยเฉพาะโครง การนี้มีข้อทักท้วงจากชาวบ้าน นักวิชาการ รวมทั้งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ที่พบว่าพื้นที่ดังกล่าวยังมีแนวปะการังที่สมบูรณ์ และอาจจะไม่ครบถ้วนในอีไอเอ

“ข้อทักท้วงเรื่องทุ่งปะการังเขากวาง 62 ไร่ในพื้นที่ก่อสร้างท่าเรือยอร์ชอ่าวกุ้ง เป็นประเด็นหลักที่ในการพิจารณาอีไอเอ ฉบับที่ถอนออกไป ถูกตั้งข้อสังเกตจากนักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิใน คชก.ประกอบกับทาง คชก.ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงมาแล้ว”

ทั้งนี้ขอยืนยันว่า คชก.มีผู้ทรงคุณวุฒิจากทุกหน่วยงาน และต้องพิจารณารายละเอียดทุกๆด้านอย่างรอบคอบมาก ไม่ต้องห่วงว่าจะหลุดตาผ่านไปได้โดยไม่คำนึงถึงระบบนิเวศ และทรัพยากรในพื้นที่

ก่อนหน้านี้ ในช่วงเดือน มิ.ย. 2561 ที่ผ่านมา เกิดกระแสในโซเชียล รณรงค์ให้เห็นความสำคัญของทุ่งปะการัง อ่าวกุ้ง โดย ทช.สำรวจพบว่ามีพื้นที่ทั้งหมด 547 ไร่ มีความสมบูรณ์ปานกลาง และที่โผล่เป็นทุ่งปะการังถือว่าสมบูรณ์ 62 ไร่ ทุ่งกัลปังหาสีแดง 12 ไร่ เป็นพันธุ์ที่หายาก

ทำให้ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์อ่าวกุ้ง ได้ออกมาเรียกร้องให้ตรวจสอบ และทำหนังสือขอรายงานอีไอเอโครงการนี้กับสผ.เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา จนกระทั่ง สผ.อนุญาตให้เปิดเผยรายงานอีไอเอ อ้างอิงตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 จนวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา มีการขอถอนรายงานอีไอเอ

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้องจาก Thai PBS
ทช.ชี้ปะการังอ่าวกุ้ง-ป่าชายเลนสมบูรณ์ไม่เหมาะสร้างท่าเรือ
ชาวบ้านอ่าวกุ้ง หวั่นท่าเรือยอร์ชทุบหม้อข้าวทะเลภูเก็ต
เปิดแผนสร้างท่าจอดเรือยอร์ช 72 ลำ