กองกำลังรักษาความมั่นคงของพม่า (Myanmar security forces) กลับมาสั่งการผ่านเครื่องขยายเสียงใกล้ชายแดนบังกลาเทศอีกครั้ง ให้ชาวโรฮิงญาออกจากพื้นที่ไร้ผู้ครอบครองระหว่างสองประเทศทันที หลังจากที่ผู้ลี้ภัยราว 6,000 คน จากชนกลุ่มน้อยไร้สัญชาติหลบภัยอยู่ในพื้นที่แคบๆ ที่ตั้งอยู่ระหว่างสองประเทศ ตั้งแต่หลบหนีการปราบปรามของทหารในรัฐยะไข่เมื่อเดือนสิงหาคนที่ผ่านมา แม้ตัวเลขชาวโรฮิงญาที่หลบหนีออกจากรัฐยะไข่เกือบ 700,000 คน ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศ แต่มีบางส่วนที่ยืนยันจะพักอยู่ในพื้นที่กันชนระหว่างพรมแดนพม่าและบังกลาเทศนี้
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัฐบาลพม่าตกลงที่จะหยุดใช้เครื่องขยายเสียงสั่งการให้ชาวโรฮิงญาออกไปจากพื้นที่ดังกล่าว และข้ามเข้าไปในฝั่งกลาเทศ และกองทัพยังถอนกำลังบางส่วนออกจากบริเวณดังกล่าวที่ผู้ลี้ภัยตั้งค่ายพักแรมอยู่อีกฝั่งของรั้วลวดหนามที่ร้องเรียนว่ามีการข่มขู่แต่การประกาศข้อความผ่านเครื่องขยายเสียงกลับมาดำเนินการอีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ซึ่งแกนนำชุมชนโรฮิงญา ระบุว่าความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้นตามแนวชายแดน นอกากนี้การกระจายเสียงกล่าวถึงผู้ลี้ภัยด้วยคำว่า 'เบงกาลี' ที่ชาวพม่าส่วนใหญ่ใช้เพื่ออ้างถึงโรฮิงญา ที่ถูกมองว่าเป็นผู้อพยพผิดกฎหมายจากบังกลาเทศ
ด้านผู้บัญชาการรักษาความมั่นคงชายแดนบังกลาเทศในพื้นที่ เผยว่ากำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และทราบว่ากองกำลังพม่าได้ติดเครื่องขยายเสียงที่ต้นไม้ตามแนวรั้วชายแดนใกล้ค่ายพัก เป็นที่น่าเสียดายแม้สองประเทศเพื่อนบ้านได้ตกลงกันในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อจะเริ่มส่งผู้ลี้ภัยโรฮิงญากลับพม่า แต่กระบวนการกลับหยุดชะงัก ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวโทษกันในความล่าช้าที่เกิดขึ้น
ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Time Lives, 21/5/2018
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ