นาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ถูกศาลกรุงกัวลาลัมเปอร์สั่งฟ้องเมื่อวันที่ 20 กันยายน เพิ่มอีก 25 กระทง โดยแบ่งเป็นการใช้อำนาจในทางมิชอบ 4 กระทง และฟอกเงิน 21 กระทง ซึ่งแยกเป็นข้อหารับเงินผิดกฎหมาย 9 กระทง ใช้เงินผิดกฎหมาย 5 กระทง และโอนเงินผิดกฎหมายไปให้ผู้อื่น 7 กระทง จากกรณีที่มีการโอนเงินจากกองทุนเพื่อการลงทุนแห่งชาติ 1MDB ที่นาจิบก่อตั้งในปี 2552 เข้าบัญชีของเขาอย่างผิดกฎหมาย ทำให้เขาถูกฟ้องในคดีดังกล่าวรวมทั้งหมด 32 กระทง

โดยในเวลาต่อมาศาลแขวงกรุงกัวลาลัมเปอร์อนุมัติคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวของอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค หลังทนายฝ่ายจำเลยวางหลักทรัพย์มูลค่ารวม 3.5 ล้านริงกิต (ราว 28 ล้านบาท) เพื่อค้ำประกันตามเงื่อนไขของศาล ลดลงจากที่อัยการเรียกร้องไว้คือ 5 ล้านริงกิต (ราว 40 ล้านบาท) โดยครึ่งหนึ่งของมูลค่าหลักทรัพย์ต้องชำระทันที ส่วนที่เหลือให้ชำระภายในวันที่ 28 กันยายน และยังห้ามอดีตผู้นำมาเลเซียเดินทางออกนอกราชอาณาจักร โดยผู้พิพากษากำหนดวันไต่สวนครั้งต่อไปในวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้

อย่างไรก็ตามนายนาจิบกล่าวระหว่างเดินทางออกจากศาลโดยยืนยันว่าเขาตนเองไม่ใช่ขโมย และจะแสดงหลักฐานเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง โดยก่อนหน้านี้นาจิบกล่าวมาตลอดว่าเงินจำนวนมหาศาลนี้ได้รับพระราชทานมาจากราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย และเขาได้คืนเงินส่วนใหญ่กลับไปยังต้นทางเรียบร้อยแล้ว

ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Gulf Times, 21/9/2018