สำนักงานตำรวจแห่งเขตปกครองพิเศษอาเจะห์ ทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา เผยว่าได้ให้ความช่วยเหลือกลุ่มชาวโรฮิงญา 76 คน ซึ่งแออัดกันอยู่บนเรือไม้ขนาดเล็ก ที่ลอยมาเกยตื้นชายฝั่ง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังลอยอยู่กลางทะเลนานถึง 9 วัน ซึ่งผู้ที่อยู่บนเรือแบ่งเป็นเด็ก 8 คน ผู้หญิง 25 คน และผู้ชาย 43 คน ด้านสำนักงานบรรเทาทุกข์ของจังหวัดอาเจะห์ได้จัดสถานที่พักพิงชั่วคราวให้แก่ชาวโรฮิงญากลุ่มนี้แล้ว และมี 7 คนต้องเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ด้วย
ด้านองค์กรสิทธิมนุษยชนเผยว่า เรือลำดังกล่าวออกจากพม่า มุ่งหน้าไปยังมาเลเซีย แต่ไม่แน่ชัดว่าทำไมสุดท้ายมาขึ้นฝั่งที่อินโดนีเซีย เพราะแม้ว่าอินโดนีเซียจะเป็นประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลก แต่สามารถรับผู้ลี้ภัยได้ในจำนวนจำกัด จนทำให้มีผู้ลี้ภัยส่วนมากต้องติดอยู่ที่ค่ายพักพิงและสถานกักกันนานหลายปี
อย่างไรก็ตามนาย Fariq Muhammad ตัวแทนของชาวโรฮิงญากลุ่มนี้เผยกับเจ้าหน้าที่ว่า ออสเตรเลียคือจุดหมายที่แท้จริงของการเดินทาง โดยการมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของทางการอินโดนีเซียแก่ชาวโรฮิงญากลุ่มดังกล่าว เกิดขึ้นหลังชาวประมงอินโดนีเซียให้ความช่วยเหลือเรือขนาดเล็กพร้อมชาวโรฮิงญา 5 คน นอกชายฝั่งจังหวัดอาเจะห์ เมื่อวันที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา หลังลอยเรืออยู่ในทะเลนานถึง 20 วัน และชาวโรฮิงญาอีก 5 คนซึ่งร่วมเดินทางมาด้วยเสียชีวิตระหว่างทาง โดยไม่กี่วันก่อนหน้านั้นทางการมาเลเซียให้ความช่วยเหลือเรือขนาดเล็กที่มีชาวโรฮิงญาโดยสารอยู่ 56 คน ซึ่งก่อนเดินทางถึงมาเลเซียได้แวะเข้าหลบฝนและรับความช่วยเหลือจากทางการไทย บริเวณนอกชายฝั่งเกาะลันตา
ที่มาข่าวและภาพประกอบ: The National Post, 21/4/2018
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ