ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต เผยแผนยุทธศาสตร์เพื่อปฏิรูปกองทัพฟิลิปปินส์ภายในระยะเวลา 5 ปี ด้วยวงเงิน 5,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 180,000 ล้านบาท โดยกระทรวงกลาโหมของฟิลิปปินส์ เผยว่ามีแผนยกระดับศักยภาพของกองทัพ โดยนอกเหนือจากการยกระดับแนวทางการฝึกฝนทหารทุกเหล่าทัพทั้งในภาคทฤษฎี และการฝึกฝนภาคสนาม ยังรวมถึงการจัดซื้อยุทโธปกรณ์รุ่นใหม่เข้าสู่กองทัพ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินขับไล่ ระบบเรดาร์ รถถัง เรือฟริเกต และเรือดำน้ำที่ผู้นำฟิลิปปินส์ต้องการซื้อ 4 ลำ ภายในปี 2566

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมะนิลาชุดก่อนหน้าภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี Benigno Aquinoใช้งบประมาณทางทหารน้อยกว่าของดูเตอร์เตมากเมื่อเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกัน โดยใช้ไปทั้งสิ้น 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 55,590 ล้านบาท ) ระหว่างปี 2553 ถึง 2559 ส่วนใหญ่เป็นไปเพื่อการจัดซื้อเรือรบและเครื่องบินรบรุ่นใหม่ นอกจากนี้เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลมะนิลาเคยจัดทำแผนยุทธศาสตร์พัฒนากองทัพภายในระยะเวลา 15 ปี แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงเป็นเหตุให้กองทัพฟิลิปปินส์ยังคงต้องใช้อาวุธรุ่นเก่าสมัยสงครามเวียดนาม และส่วนใหญ่เป็นมรดกตกทอดมาจากสหรัฐ แต่ในระยะหลังรัฐบาลมะนิลาได้รับบริจาคอาวุธมากขึ้นจากออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย และสหรัฐ
 
การอนุมัติแผนยุทธศาสตร์ปฏิรูปกองทัพโดยดูเตอร์เต เป็นหนึ่งในแผนพัฒนาประเทศ 33 โครงการที่ดูเตอร์เตประกาศไว้เมื่อเดือนที่แล้ว โดยส่วนใหญ่มุ่งเน้นการพัฒนาความมุ่นคงภายในประเทศ และการปกป้องเขตแดนทางทะเล จากการที่ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศคู่พิพาทกับรัฐบาลปักกิ่ง เรื่องอาณาเขตทับซ้อนในทะเลจีนใต้ โดยเฉพาะหมู่เกาะสแปรตลีย์ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่เกาะขนาดใหญ่ในทะเลจีนใต้

ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Channel News Asia, 21/6/2018