ทหารพม่าประกาศยุติกิจกรรมในเขตภาคเหนือและตะวันออกของประเทศ ที่ทหารกำลังต่อสู้กับกองกำลังชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ เป็นเวลา 4 เดือน ที่ถูกคาดว่ามีเป้าหมายเพื่อจะเริ่มต้นการเจรจาสันติภาพ โดยแถลงการณ์ของกองบัญชาการทหารสูงสุดพม่า ระบุว่ากองทัพจะระงับปฏิบัติการทางทหาร ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกในทันที จนถึงวันที่ 30 เม.ย. 2562 และการหยุดยิงจะทำให้คณะผู้เจรจาของกองทัพ ทำการเจรจากับกลุ่มกบฎที่ยังไม่ลงนามในช้อตกลงหยุดยิงทั่วประเทศกับรัฐบาล มีเป้าหมายเสร็จสิ้นกระบวนการสันติภาพ ภายในปี พ.ศ. 2563

ด้านนาย Zaw Htay โฆษกรัฐบาลพม่า เผยว่ากองทัพได้แจ้งต่อรัฐบาลพลเรือนภายใต้การนำของนางออง ซาน ซูจีก่อนประกาศแล้ว และทั้งสองฝ่ายกำลังร่วมมือกันในกระบวนการสันติภาพ และเราหวังว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี เพราะรัฐบาลตั้งใจจะให้ความสำคัญกับการยุติความขัดแย้งเมื่อก้าวเข้าสู่อำนาจในปี 2559 แต่การเจรจากลับไม่ประสบความสำเร็จอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะที่นาย Maung Maung Soe นักวิเคราะห์การเมืองในย่างกุ้ง เผยว่าความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบอย่างน้อย 30 ปี ที่ทหารประกาศยุติการต่อสู้เพียงฝ่ายเดียว ฉะนั้นสันติภาพสำหรับทั้งประเทศจะขึ้นอยู่กับการเจรจากับแต่ละกลุ่มต่อจากนี้ แต่ก็ยังน่าวิตกกังวลว่าประกาศนี้ไม่ครอบคลุมถึงรัฐยะไข่ในภาคตะวันตกของประเทศ ที่ทหารดำเนินการปราบปรามตอบโต้การโจมตีของกองทัพปลดปล่อยโรฮิงญาแห่งรัฐยะไข่ (ARSA) ในเดือนส.ค. 2560 ที่อ้างว่าเป็นตัวแทนของชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮิงญา ซึ่งพม่าถือว่าเป็นกลุ่มก่อการร้ายและพวกเขาไม่ถูกรวมอยู่ในการเจรจาใดๆ

ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Channel News Asia,21/12/2018