สำนักข่าวกรองแห่งชาติซึ่งประกอบด้วยหน่วยงาน 17 แห่ง (United States Intelligence Community) รวมถึงสำนักข่าวกรองกลาง (CIA) ได้เผยแพร่รายงานประจำปีสู่สาธารณะ ระบุว่าสถานการณ์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ประธานาธิบดีโรดิโก ดูเตอร์เต นับเป็นหนึ่งใน 'ภัยคุกคามระดับภูมิภาค' (regional threat) ต่อผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกาในภูมิภาคแห่งนี้ เนื่องจากผู้นำฟิลิปปินส์ยังคงใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด ในการปราบปรามยาเสพติด การคอร์รัปชั่น และอาชญากรรม
นอกจากนี้เนื้อหาในรายงานฉบับดังกล่าวยังแสดงความวิตกกังวลต่อการที่ผู้นำฟิลิปปินส์มีแนวคิดจัดตั้งรัฐบาลปฏิวัติแห่งชาติ (revolutionary government) และการที่รัฐสภาในกรุงมะลินาอนุมัติการขยายระยะเวลาบังคับใช้กฎอัยการศึกบนเกาะมินดาเนา ต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี 2561 อีกด้วย อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว นาย Sung Kim เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงมะนิลา ยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาของดูเตอร์เต ว่า CIA กำลังซุ่มวางแผนเพื่อโค่นอำนาจรัฐบาลของเขา ผ่านการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้าม
ขณะที่รายงานฉบับดังกล่าว ยังพูดถึงสถานการณ์ทางการเมืองในกัมพูชา ว่านายกรัฐมนตรี สมเด็จฮุน เซน ใช้อำนาจกดขี่สถาบันประชาธิปไตยและภาคประชาสังคม การปรับเปลี่ยนโครงสร้างรัฐบาลและสถาบันตุลาการ และการใช้ระบอบอุปถัมภ์และการปลัดระดมให้เกิดสถานการณ์ความไม่สงบ เพื่อรักษาอำนาจต่อเนื่อง หลังการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ ขณะที่สถานการณ์ในพม่า ประเด็นของชาวโรฮิงญาอาจส่งผลต่อสถานการณ์ประชาธิปไตยในพม่าที่ยังอ่อนแอ มีความเสี่ยงของการเกิดความรุนแรง และเปิดโอกาสให้จีนขยายอิทธิพลเข้ามามากขึ้น
ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Rappler, 21/2/2018
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ