ศูนย์ข้อมูลกฎหมายเอเชีย (Asian Legal Resource Centre: ALRC) และ Odhikar องค์กรสิทธิมนุษยชนในกรุงธากา บังกลาเทศ ยื่นเอกสารรวบรวมหลักฐาน รวมทั้งคำให้การของเด็กและผู้หญิงชาวโรฮิงญาว่าทหารพม่าทั้งข่มขืนและเผาสังหารชนกลุ่มน้อยกลุ่มนี้ โดยส่งไปยังสำนักงานอัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ที่กรุงเฮก ของเนเธอร์แลนด์ เพื่อรวบรวมสรุปว่าจะดำเนินคดีและให้ความยุติธรรมกับเหยื่ออย่างไร รายงานระบุว่าถูกเจ้าหน้าที่ทหารพม่าล่วงละเมิดทางเพศอย่างโหดเหี้ยมในช่วงนำกำลังกวาดล้างกองกำลังปลดปล่อยอาระกันโรฮิงญา (ARSA) เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว จนเป็นเหตุให้ชาวโรฮิงญาอย่างน้อย 6,700 รายเสียชีวิต

บางส่วนของรายงานเปิดเผยเรื่องราวของเหยื่อที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ เด็กหญิง Marwa อายุ 10 ขวบ เด็กหญิงชาวโรฮิงญาที่สูญเสียครอบครัวเพราะพ่แม่ถูกทหารยิงเสียชีวิต กล่าวว่าถูกนำตัวไปรวมกับเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ จากหมู่บ้านเดียวกัน และทหารพม่าพาไปยังโรงเรียนที่อยู่ใกล้เคียง ก่อนจะถูกรุมข่มขืน ขณะที่เหยื่ออีกคนชื่อ Khurshida อายุ 20 ปี เผยว่าถูกกักตัวไว้กับผู้หญิงชาวโรฮิงญาอีกหลายคน กระทั่งวันหนึ่งเจ้าหน้าที่ทหารพม่านำตัวไปผูกเชือกตรึงกับต้นไม้และข่มขืนซ้ำไปซ้ำมานานหลายวันจนหมดสติ แต่ทหารคิดว่าตนเสียชีวิตเลยนำตัวไปทิ้งนอกค่าย จึงพยายามหลบหนีและรอดชีวิตมาได้

อย่างไรก็ตามนาง Fatou Bensouda อัยการสูงสุดของ ICC ที่เป็นตัวหลังในการผลักดันการสอบสวนกรณีล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวโรฮิงญา เผยว่าแม้พม่าจะไม่ใช่รัฐสมาชิกของ ICC แต่เหตุการณ์ความรุนแรงที่ทำให้ชาวโรฮิงPาต้องลี้ภัยข้ามชายแดนจากรัฐยะไข่มายังบังกลาเทศซึ่งเป็นสมาชิก ICC นั้น อาจอยู่ในอำนาจของศาลอาญาระหว่างประเทศที่จะไต่สวนและดำเนินคดี

ที่มาข่าวและภาพประกอบ: The Guardian, 24/6/2018