Nahdlatul Ulama (NU) ซึ่งเป็นองค์กรอิสลามที่ทรงอิทธิพลของอินโดนีเซีย แถลงวิจารณ์ศาลที่พิพากษากรณีที่หญิงชาวพุทธถูกตัดสินจำคุก 18 เดือนข้อหาหมิ่นศาสนาจากการแสดงความไม่พอใจร้องเรียนกรณีที่มัสยิดแห่งหนึ่งประกอบพิธีทางศาสนาเสียงดังเกินไป พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนใช้ควาามอดทนและใจกว้างกว่านี้ (อ่านเพิ่มเติมที่: สตรีชาวพุทธถูกศาลอินโดนีเซียสั่งจำคุก 18 เดือน หลังร้องเรียนว่ามัสยิดเปิดลำโพงเสียงดัง)
นาย Robikin Emhas สมาชิกของ NU องค์กรอิสลามสายกลางที่มีสมาชิกกว่า 40 ล้านคนทั่วประเทศ เผยว่าการออกมาบอกว่า ผู้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเสียงดังเกินไปนั้น ในความคิดเห็นของเขาแล้ว ไม่ถือว่าเป็นการหมิ่นศาสนา ซึ่งในฐานะที่เป็นชาวมุสลิม ความคิดเห็นเช่นนี้ ควรจะยอมรับว่า เป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่สร้างสรรค์ในสังคมพหุวัฒนธรรม
ขณะที่แอมเนสตี้ประจำอินโดนีเซีย เผยว่าคำพิพากษาดังกล่าวน่ารังเกียจ จึงชวนประชาชนร่วมกันรณรงค์ผ่านทางออนไลน์เรียกร้องให้ปล่อยตัวหญิงชาวพุทธคนดังกล่าว โดยมีผู้ร่วมลงชื่อแล้วเกือบ 1 แสนคน อย่างไรก็ตามนาย Johan Budi โฆษกของประธานาธิบดีเผยว่า ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด จะไม่ไปยุ่งเกี่ยวในกรณีดังกล่าวแต่จะเคารพการตัดสินของศาล
ที่ผ่านมามัสยิดหลายร้อยแห่งทั่วเกาะสุมาตราของอินโดนีเซียส่วนใหญ่ใช้เครื่องกระจายเสียงในระหว่างการทำพิธีละหมาดซึ่งใช้เวลาไม่นาน แต่พบว่ามีหลายแห่งเช่นกันที่ใช้เวลาในการละหมาด นานเกิน 30 นาที ซึ่งทางสภามัสยิดของอินโดนีเซียเห็นว่าไม่จำเป็น
ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Reuters, 25/8/2018
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ