'ศูนย์วิจัยกสิกรไทย' ระบุยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนไทยในไตรมาส 2/2561 ขยับขึ้นมาที่ 12.34 ล้านล้านบาท โดยหนี้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่น่าจะเป็นผลมาจากการเร่งตัวขึ้นของยอดคงค้างสินเชื่อบ้าน และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ โดยหากนับเฉพาะการขยับขึ้นยอดคงค้างสินเชื่อบ้าน จะคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 38% ของยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นในระหว่างไตรมาส 2 ที่มาภาพประกอบ: Mortgage Finance Gazette
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยแพร่บทวิเคราะห์ 'หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 2/2561 ... กว่าครึ่งหนึ่งของหนี้ที่เพิ่ม เป็นผลจากสินเชื่อบ้าน-รถ' เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2561 ที่ผ่านมาระบุว่ายอดคงค้างหนี้ครัวเรือนไทยในไตรมาส 2/2561 ขยับขึ้นมาที่ 12.34 ล้านล้านบาท (เติบโต 5.7% YoY) โดยหนี้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่น่าจะเป็นผลมาจากการเร่งตัวขึ้นของยอดคงค้างสินเชื่อบ้าน และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ โดยหากนับเฉพาะการขยับขึ้นยอดคงค้างสินเชื่อบ้าน จะคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 38% ของยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นในระหว่างไตรมาส 2 อย่างไรก็ดี สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพี ยังคงชะลอลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ 77.5% ในไตรมาส 2/2561 โดยเป็นผลมาจากเศรษฐกิจ (วัดจาก Nominal GDP) ที่ขยายตัวเร็วกว่ายอดคงค้างหนี้ครัวเรือน
การขยับขึ้นของหนี้ครัวเรือนดังกล่าว สะท้อนสภาพการแข่งขันในตลาดสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่ออุปโภคบริโภคอื่นๆ ของ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (นอนแบงก์) สวนทางกับสถาบันการเงินประเภทอื่นๆ ที่มีบทบาทลดลง โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปี 2561
สำหรับแนวโน้มของหนี้ครัวเรือน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า อานิสงส์จากเศรษฐกิจไทยที่เติบโตดีขึ้น อาจส่งผลทำให้ยังคงเห็นสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีในปี 2561 นี้ ขยับลงต่อเนื่องมาอยู่ในกรอบ 77.0-78.0% อย่างไรก็ดี การเพิ่มขึ้นของหนี้ครัวเรือนในปีนี้ (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้ก้อนใหญ่) รวมถึงทิศทางดอกเบี้ยที่มีโอกาสขยับขึ้นในระยะข้างหน้า อาจมีผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนบางกลุ่ม แม้ปัจจัยดังกล่าวอาจจะไม่กระทบต่อทิศทางของหนี้ครัวเรือนในภาพรวมมากนัก หากเศรษฐกิจไทยยังคงประคองการฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องในปีหน้า
ข้อมูลเงินให้กู้ยืมแก่ภาครัวเรือน หรือหนี้ครัวเรือนไทย ล่าสุดจากธนาคารแห่งประเทศไทย ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 2/2561 โดยยอดคงค้างหนี้เติบโตเร่งขึ้นใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจที่รับฝากเงิน และบริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน อาทิ ผู้ให้บริการบัตรเครดิต ลิสซิ่ง และสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งการเร่งตัวขึ้นของหนี้ครัวเรือนดังกล่าว สอดคล้องกับข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่สะท้อนว่า มีการเร่งตัวขึ้นของสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ นับตั้งแต่ต้นปี 2561 ที่ผ่านมา
การเพิ่มขึ้นของสินเชื่อบ้าน สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ หนุนยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนไทยขยับขึ้นมาที่ 12.34 ล้านล้านบาทในไตรมาส 2/2561 เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 5.7% YoY ซึ่งนับเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นของหนี้ครัวเรือนที่สูงที่สุดในรอบ 3 ปี และขยับขึ้นต่อเนื่องจาก 5.2% YoY ในไตรมาสแรก โดยการเพิ่มขึ้นของหนี้ครัวเรือนดังกล่าว เป็นทิศทางที่สอดคล้องกับการเติบโตเร่งขึ้นของการใช้จ่ายภาคครัวเรือน โดยเฉพาะในสินค้าคงทน เช่น รถยนต์ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ