ข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง ระบุรัฐบาลใช้เงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2560-27 ก.ย. 2561 รวม 42,440 ล้านบาท แบ่งเป็น ร้านธงฟ้าประชารัฐ 41,318 ล้านบาท ร้านก๊าซหุงต้ม 59.5 ล้านบาท รถ บขส. 111.7 ล้านบาท รถไฟ 217.6 ล้านบาท รถไฟฟ้า (เริ่ม 20 ก.ค. 2561) 8.7 ล้านบาท และเงินมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิต (โอนเข้ากระเป๋าเงิน e-Money) 724.6 ล้านบาท Infographic by TCIJ/Racha Luangborisut (CC BY-NC 2.0)
เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2561 มติชนออนไลน์ รายงานว่านางญาณี แสงศรีจันทร์ โฆษกกรมบัญชีกลางเปิดเผยว่าขณะนี้กรมกำลังเตรียมพร้อมในการคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยผู้มีสิทธิรับบัตร 11.1 ล้านราย ซึ่งในเดือน ต.ค. 2561 เริ่มใช้การสแกนใบหน้า Application face scan เพื่อให้ผู้มีสิทธิใช้ชำระเงินแทนรูปแบบเดิม
ส่วนการวางเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) ทำไปแล้ว 35,359 เครื่อง โดยมียอดการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2560 – 27 ก.ย. 2561 รวม 42,440 ล้านบาท แบ่งเป็น ร้านธงฟ้าประชารัฐ 41,318 ล้านบาท ร้านก๊าซหุงต้ม 59.5 ล้านบาท รถ บขส. 111.7 ล้านบาท รถไฟ 217.6 ล้านบาท รถไฟฟ้า (เริ่ม 20 ก.ค. 2561) 8.7 ล้านบาท และเงินมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิต (โอนเข้ากระเป๋าเงิน e-Money) 724.6 ล้านบาท
การจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพจากกองทุนผู้สูงอายุสำหรับภาษีสรรพสามิตและสุรายาสูบ โดยโอนเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ให้กับผู้สูงอายุที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามสิทธิที่ได้รับ คือเดือนละ 50 บาท และ 100 บาท เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกและกำลังซื้อให้ผู้มีสิทธิ สามารถนำเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้จ่ายได้ตามความต้องการ และยังได้พัฒนารูปแบบการชำระเงินให้สามารถชำระเงินผ่านทาง Moblie Application ถุงเงิน โดยมีร้านค้าที่ใช้งานผ่าน Application ถุงเงินแล้ว 7,837 ร้านค้า เป็นเงิน 140.85 ล้านบาท
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ