กรมธุรกิจพลังงานเผยตัวเลขการใช้ก๊าซ LPG ในภาคขนส่ง ปี 2560 ลดลง 10% ในขณะที่ NGV ลดลง 12.1% เพราะผู้บริโภคหันไปใช้น้ำมันเชื้อเพลิงแทนทำให้ ปั๊ม NGV ทยอยปิดกิจการอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ยอดใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้น 3.7% และดีเซล(บี7)เพิ่ม 2.7% ที่มาภาพประกอบ: bangchak.co.th

เว็บไซต์ Energy News Center รายงานเมื่อวันที่ 22 ก.พ.2561 ว่านายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับสถานการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของปี 2560 (ม.ค.-ธ.ค.) โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจ คือ ตัวเลขการใช้LPG ในภาคขนส่ง ที่มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 3.6 ล้าน กก.ต่อวัน หรือลดลง 10% จากปีก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามการใช้ LPG ในภาคปิโตรเคมี มีตัวเลขที่เพิ่มขึ้นประมาณ 14.7% หรืออยู่ที่ 5.7ล้านกก.ต่อวัน LPG ภาคอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 6.6% อยู่ที่ 1.8 ล้าน กก.ต่อวัน ส่วน LPG ครัวเรือน (ก๊าซหุงต้ม) เพิ่มขึ้น 2.1% อยู่ที่ 5.9 ล้าน กก.ต่อวัน

สำหรับการใช้ NGV มีตัวเลขการใช้ เฉลี่ยของปี 2560 อยู่ที่ 6.8 ล้าน กก.ต่อวัน ลดลงจากปีก่อนหน้านี้ 12.1% โดยเป็นผลมาจาก ประชาชนผู้ใช้รถหันไปใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีราคาลดต่ำลงตั้งแต่ปี 2559 ส่งผลให้ผู้ประกอบการปั๊ม NGV ทยอยปิดปั๊มอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่รถยนต์จดทะเบียนใหม่ ที่ใช้เชื้อเพลิง NGV (อ้างอิงข้อมูล กรมการขนส่งทางบก) ก็มีจำนวนลดลง 4.7%

ทั้งนี้ ยอดการใช้น้ำมันในกลุ่มเบนซิน ปี 2560 เฉลี่ยอยู่ที่ 30.1 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.7% แต่ยอดการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 10.6ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 4.4% เพราะผู้ใช้รถหันมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 เพิ่มขึ้น ยอดมีการใช้เฉลี่ย 11.9 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้น 10% เพราะมีราคาจำหน่ายที่ใกล้เคียงกัน และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี20 มียอดการใช้ 5.2 ล้านลิตรต่อวัน หรือ เพิ่มขึ้น 8.8%

ส่วนยอดการใช้ น้ำมันดีเซล(บี7) ปี2560 เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 62.2 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้านี้ 2.7% ตามการเติบโตทางเศรษฐกิจ แม้ว่าจะมีราคาปรับสูงขึ้นมาตั้งแต่ปี 2559