นาย Ousmane Dione ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำเวียดนาม เผยว่าหากเวียดนามจะขึ้นเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตรวดเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชีย และเป็นศูนย์กลางการผลิตของบริษัทระดับโลก เช่น บริษัทซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ จำเป็นที่จะต้องระดมทุนกว่า 150,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2573 เพื่อใช้พัฒนาภาคพลังงานของประเทศ เพราะปัจจุบันเวียดนามกำลังดิ้นรนอย่างหนักที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมด้านพลังงานของประเทศเนื่องจากขาดงบประมาณ ขณะที่ศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำของประเทศก็ถูกใช้เกือบเต็มขีดความสามารถ และแหล่งสำรองน้ำมันและก๊าซกำลังลดลง
Ousmane Dione เผยอีกว่า นับตั้งแต่ปี 2553 มีการลงทุนในภาคส่วนพลังงานไปกว่า 80,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งในด้านการผลิต การส่งและการจัดจำหน่าย ซึ่งความต้องการพลังงานไฟฟ้าในเวียดนามจะเติบโตขึ้นราว 8% ต่อปี ในอีก 10 ปีข้างหน้า ธนาคารโลกจึงแนะนำว่าเวียดนามควรอนุญาตให้ภาคเอกชนมีบทบาทมากขึ้นในการระดมทุนนอกเหนือไปจากงบประมาณรัฐ และจำเป็นต้องเพิ่มการใช้พลังงานทดแทน และเปิดตลาดพลังงานให้มีการแข่งขัน ค่าไฟที่สูงขึ้นจะช่วยดึงดูดการลงทุนจากเอกชนในภาคพลังงานได้
ด้านนาย Nguyen Van Binh หัวหน้าคณะกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม (the ruling Communist Party Central Committee's Economic Commision) เผยว่าเนื่องจากหนี้สาธารณะที่ใกล้ชนเพดานที่กำหนดไม่เกิน 65% ของจีดีพี ทำให้การระดมทุนเป็นเรื่องยากลำบาก แต่ วียดนามมีแผนที่จะเพิ่มปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนให้มากกว่า 3 เท่า และผลักดันการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ตามครัวเรือนเพิ่มขึ้น 26% ภายในปี 2573
ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Today Online, 27/11/2018
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ