กรมปศุสัตว์จัดชุดเฉพาะกิจปราบปรามสารเร่งเนื้อแดง บุกตรวจฟาร์มหมูราชบุรี 9 แห่ง พบการลักลอบใช้สารอันตราย 4 ฟาร์ม เตรียมเอาผิด ที่มาภาพ: สำนักข่าวไทย

สำนักข่าวไทย รายงานเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2561 ว่านายสัตวแพทย์ สรวิศ ธานีโต ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯรักษาราชการแทนอธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่ากรมปศุสัตว์ได้เร่งเดินหน้ายุทธการปราบปรามการลักลอบใช้สารเร่งเนื้อแดง โดยจัดชุดเฉพาะกิจกรมปศุสัตว์ ประกอบด้วย กองอาหารและยาสัตว์ (อยส.) สำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ (สพส.) สำนักงานปศุสัตว์เขต 1 เขต 2 และเขต 7 และกลุ่มด่านกักกันสัตว์ที่ 6 และ7 รวมเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย โดยมีนายสัตวแพทย์ จีรศักดิ์ พิพัฒนพงศ์โสภณ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์เป็นหัวหน้าทีม กระจายกำลังจู่โจมตรวจสอบฟาร์มสุกรขุนในพื้นที่จังหวัดราชบุรี หลังจากมีผู้แจ้งแบะแสการกระทำผิดด้านปศุสัตว์ผ่านแอพพลิเคชั่น “DLD 4.0” ของกรมปศุสัตว์ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายได้อย่างทันท่วงที

“การบุกเข้าตรวจสอบฟาร์มเลี้ยงหมูในครั้งนี้ดำเนินการแบบปูพรมพร้อมกันใน 9 ฟาร์ม ที่ได้รับการชี้เป้าหมายไว้ หลังจากวางแผนอย่างรัดกุม และเข้าเก็บตัวอย่างปัสสาวะสุกรแล้วตรวจด้วยชุดทดสอบภาคสนาม strip test ที่ให้ผลรวดเร็วและมีความแม่นยำสูง พบผลบวกที่แสดงว่ามีการลักลอบใช้สารเร่งเนื้อแดง 4 ฟาร์ม เจ้าหน้าที่จึงอายัดสุกรขุนจำนวน 8,540 ตัว และส่งตัวอย่างปัสสาวะตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการกรมปศุสัตว์ เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของฟาร์มอย่างถึงที่สุด” น.สพ.สรวิศกล่าว

น.สพ.สรวิศกล่าวว่า หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดทั้งโรงฆ่าสัตว์เถื่อนและการใช้สารเร่งเนื้อแดง โปรดแจ้งเบาะแสผ่านแอพพลิเคชั่นในมือถือ "DLD 4.0" เพื่อให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่เข้าดำเนินการตรวจสอบในทันที และผู้แจ้งจะได้รับรางวัลสินบนนำจับหลังจากคดีสิ้นสุด ทั้งนี้ การลักลอบใช้สารเร่งเนื้อแดงในฟาร์มสุกรเป็นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. 2558 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจถูกศาลพิจารณาให้ยึดใบอนุญาตประกอบกิจการ