ประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครงการปรับปรุงร่องน้ำทางเดินเรือแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง หรือโครงการระเบิดแก่งแม่น้ำโขง ผู้นำชุมชนยืนยันคัดค้าน ชาวบ้านได้รับความเดือนร้อนมาตลอด หากกระทบถึงอาชีพก็จะทำให้คนหันไปหาสิ่งผิดกฎหมายจากการปรับตัวไม่ทัน การเดินเรือของชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นเรือเล็กได้รับผลกระทบจากการเดินเรือขนาดใหญ่แน่นอน ที่มาภาพ: ไทยโพสต์
เว็บไซต์ไทยโพสต์ รายงานเมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2562 ที่ห้องประชุมที่ว่าการ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ได้มีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และผู้ที่เกี่ยวข้องต่อผลการศึกษาร่างมาตรการป้องกันและแก้ไขและติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสังคม โครงการปรับปรุงร่องน้ำทางเดินเรือแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง ครั้งแรก หรือโครงการระเบิดแก่งแม่น้ำโขง โดยมีผู้แทนบริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) และผู้แทนบริษัท CCCC Second Harbor Consultants จำกัด ร่วมชี้แจง ซึ่งมีผู้นำชุมชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชาวบ้านริมแม่น้ำโขงเข้าร่วมประมาณ 200 คน
นายสุจิต สุชาติ นายอำเภอเวียงแก่น กล่าวว่าขอให้ชาวบ้านออกความเห็นกันเต็มที่ในเวที ซึ่งจะมีผลทางกฎหมาย ขอให้หันหน้าคุยกัน เรื่องนี้จุดแตกหักไม่ได้อยู่ที่เรา แต่อยู่ที่รัฐบาลในการพิจารณาอีกครั้ง
นายหลิว ลีหัว รองประธานบริษัท CCCC Second Harbor กล่าวว่า ผลการสำรวจแก่งแม่น้ำโขง 15 จุด ระยะ 96 กิโลเมตร ที่ผ่านไทยและลาว ตั้งแต่ 3 เหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน ถึงแก่งบ้านโคกหลวง อ.เวียงแก่น หากจะให้เรือขนาด 500 ตันที่มีความยาวประมาณ 57 เมตร ความกว้าง 8.5 เมตร สามารถผ่านได้ โดยเรือสามารถขนตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 300 TEU ได้ ความลึกของร่องน้ำต้องประมาณ 2.5 เมตร กว้าง 30-50 เมตร วงเลี้ยว 330 เมตร
ดังนั้นจึงต้องมีการปรับปรุงเกาะแก่งสกัดหินออกและขุดลอกจำนวน 13 จุด ซึ่งยืนยันว่าจะสกัดหินเท่าที่จำเป็นและมีการสร้างที่ป้องกันตลิ่ง ส่วนขั้นตอนโดยผลการศึกษาจะส่งให้ผู้เชี่ยวชาญจาก 4 ประเทศดูรายละเอียด ทั้งจีน ไทย ลาว เมียนมา ซึ่งกำลังจะประชุมร่วมกันในวันที่ 9 ม.ค. 2562 ที่ประเทศจีน ก่อนที่จะส่งไปยังรัฐบาลแต่ละประเทศที่จะพิจารณาว่าผ่านความเห็นชอบหรือไม่ ก่อนเสนอกลับมายังคณะกรรมการร่วม 4 ประเทศในการดำเนินโครงการหรือไม่อย่างไรอีกครั้ง โดยยืนยันว่าบริษัทฯไม่ได้เป็นตัวแทนรัฐบาลจีน แต่เป็นการรับดำเนินการภายใต้ความเห็นชอบร่วมกันของ 4 ประเทศ
ดร.ตวงสรวง สกุลกลจักร ตัวแทนบริษัททีมฯ กล่าวว่า ข้อกังวลของชาวบ้านจากการสำรวจคือ การกัดเซาะเกินการควบคุม การพังทลายของตลิ่ง เพราะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเดิน ความเร็ว ปริมาณ และระดับน้ำ กระทบต่อความมั่นคงตามแนวชายแดน และการเปลี่ยนแปลงแนวเขตแดนระหว่างประเทศ กระทบต่อการเดินเรือในแม่น้ำโขงที่เป็นไปตามวิถีของคนริมฝั่งปัจจุบัน เพราะคลื่นกระแทกจากการเดินเรือขนาดใหญ่ ความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยและจีนที่ต่างกันมาก และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงสัตว์ป่าและสัตว์น้ำที่อาศัยระบบนิเวศแม่น้ำโขงจะได้รับผลกระทบด้วย
ด้านนายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ กล่าวว่าจากการอ่านรายงานผลการศึกษายังเป็นความเห็นเชิงกายภาพและศึกษาไม่ครอบคลุมระบบนิเวศน์ทั้งระบบ รวมถึงผลกระทบชุมชนและสภาพแวดที่คนท้องถิ่นอาศัย จึงยืนยันมีความเห็นคัดค้าน จากการติดตามสถานการณ์แม่น้ำโขงมา 18 ปีแล้ว รับรู้ว่าแม่น้ำโขงกำลังป่วยและยังมีปัญหาเรื่องการปักปันเขตแดนที่ไทยเสียประโยชน์แน่นอน เพราะร่องน้ำลึกที่ติดทางฝั่งไทย เกาะดอนจะเป็นของฝั่งลาวเกือบทั้งหมด หากจะระเบิดหินออกกว่า 20,000 ตัน แล้วใช้หินไปถมแอ่งน้ำลึก นั่นแสดงถึงความไม่รู้เรื่องความสำคัญระบบนิเวศน์แม่น้ำและยังกระทบต่อเนื่องถึงป่าสงวนแห่งชาติแม่โขงฝั่งขวา ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่อิงฝั่งขวา และป่าแม่งาว ซึ่งยืนยันว่าจะเดินหน้าคัดค้านจนถึงที่สุด
“รัฐบาลต้องทบทวน การไม่ทำร้ายแม่น้ำโขงดีที่สุด ให้จีนลดขนาดเรือลง หรือใช้ถนน R3A และทางรถไฟได้ ใช้ให้เต็มที่ สิ่งสำคัญคือ กระบวนการนี้ผิดขั้นตอนมาตั้งแต่ต้น จีนเป็นผู้สรุปรายงานและลงทุน เขาก็ต้องคิดถึงประโยชน์ในมุมของประเทศเขา ตัวแทนประเทศไทยเป็นเพียงร่วมศึกษาเก็บข้อมูล ถ้าเสียหายไปแล้วเอาคืนไมได้ หยุดได้แล้ว พอได้แล้ว อย่างสร้างความกังวลให้ชาวบ้าน” นายนิวัฒน์กล่าว
ส่วนนายทองสุข อินทวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านห้วยลึก ต.หล่ายงาว กล่าวว่า ชุมชนได้รับผลกระทบตลอด เสียหาย ขอคัดค้านอย่างแน่นอน ชาวบ้านได้รับความเดือนร้อนมาตลอด หากกระทบถึงอาชีพ ก็จะทำให้คนหันไปหาสิ่งผิดกฎหมายจากการปรับตัวไม่ทัน การเดินเรือของชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นเรือเล็ก ได้รับผลกระทบจากการเดินเรือขนาดใหญ่แน่นอน
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ