สหภาพแรงงานธนาคาร KB Kookmin ลงมติให้มีการนัดหยุดงาน หลังเจรจาต่อรองที่ทำท่าจะล้มเหลว ซึ่งจะเป็นการนัดหยุดงานครั้งแรกในรอบ 19 ปี ของธนาคารแห่งนี้ ที่มาภาพ: Yonhap

ป้ายผ้าซึ่งประกาศว่าจะมีการนัดหยุดงานของสหภาพแรงงานธนาคาร KB Kookmin แขวนไว้ที่สาขาใหญ่ย่าน Yeouido กรุงโซลเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2019 จากจำนวนสมาชิกสหภาพแรงงานทั้งหมด 11,990 คน ลงมติให้มีการนัดหยุดงาน 11,511 คน ซึ่งกำหนดในวันที่ 8 ม.ค. 2019 นี้

ธนาคาร KB Kookmin และสหภาพแรงงานอยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองที่ทำท่าจะล้มเหลวในหลายๆ ประเด็น รวมถึงระบบค่าจ้างสูงสุดและเงินรางวัลของธนาคาร สหภาพแรงงานกล่าวว่าพวกเขาจะนัดหยุดงานในวันที่ 8 ม.ค. 2019 หากผู้บริหารไม่ทำตามข้อเรียกร้องของพวกเขา

และหากพวกเขานัดหยุดงานก็จะเป็นการนัดหยุดงานครั้งแรกในรอบ 19 ปี

รองประธานผู้บริหารธนาคาร KB นายคิม นัม-อิลกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ไม่ต้องการให้พนักงานชุมนุม "เราไม่ควรที่จะทำลายชื่อเสียงในฐานะธนาคารชั้นนำของประเทศ ลูกค้าของธนาคาร KB 30 ล้านคนจะได้รับผลกระทบ"

"การนัดหยุดงานเป็นสิ่งที่ไม่ควร การเจรจาต่อรองบนโต๊ะและพูดคุยให้เกิดความเข้าใจจะดีกว่า"

ประธานสหภาพแรงงานธนาคาร KB Kookmin นาย Park Hong-bae ปฏิเสธวิธีการเจรจาของนายจ้างที่เพิกเฉยประเด็นปัญหาของพนักงาน

นาย Hur Yin ผู้บริหารธนาคาร KB Kookmin ประชุมกับนาย Park ประธาน สร.ฯ เป็นเวลา 2 ช.ม. เมื่อหลังปีใหม่ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

"เราเชื่อว่ายังมีหนทางที่จะตกลงกันได้" พนักงานธนาคารคนหนึ่งกล่าว ตอนนี้เรายังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของการเจรจา และการเจรจายังดำเนินไปจนถึงสุดสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดไม่สามารถตกลงกันได้ โดยเฉพาะข้อเรียกร้องสำคัญคือ จำนวนเงินโบนัสและการนำระบบค่าจ้างสูงสุด (wage peak system) มาใช้ (การลดค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ใกล้เกษียณ) การเจรจาดำเนินมาแล้ว 12 ครั้งนับตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. 2018 ทั้งๆ ที่มีคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ชี้ขาด

สำหรับเงินรางวัลต่างๆ สหภาพแรงงานเรียกร้องให้นายจ้างจ่าย 300% ของค่าจ้างปกติ ในขณะที่นายจ้างยืนยันว่าจำเป็นต้องปรับค่าตอบแทนเพราะพวกเขาไม่สามารถทำงานบรรลุเป้าของปี 2018 ได้

นายจ้างยังเสนอให้กำหนดเงินโบนัสควบคู่กับอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นเพื่อป้องกันความขัดแย้งจากการขาดมาตรฐานการกำหนดเงินรางวัล แต่สหภาพแรงงานปฏิเสธข้อเสนอนี้

ที่มาแปลและเรียบเรียงจาก
http://www.koreatimes.co.kr/www/biz/2019/01/488_261495.html