ประชาชนชาวกัมพูชาราวเจ็ดหมื่นคนรวมตัวกันที่สนามกีฬาแห่งชาติเพื่อฉลองครบรอบ 40 ปี วันแห่งชัยชนะเหนือระบอบล้างเผ่าพันธุ์เขมรแดง โดยงานเฉลิมฉลองในปีนี้ สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) เป็นประธานในพิธี เผยถึงความสำคัญของวันที่ 7 ม.ค. 2522 ว่าเป็นวันประวัติศาสตร์ของประชาชนชาวกัมพูชาที่โค่นล้มระบอบเขมรแดงที่คร่าประชาชนไปเกือบ 3 ล้านคน และเป็นช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในกัมพูชา

ฮุน เซน ระบุว่าหลังการสิ้นสุดสงครามกลางเมืองที่เป็นผลของนโยบายวิน-วิน (Win-Win policy) ในปี 2541 กัมพูชามีโอกาสอย่างเต็มที่ในการฟื้นฟู และพัฒนาประเทศภายใต้ร่มเงาของสันติภาพ โดยอ้างว่าปัจจุบันเศรษฐกิจกัมพูชากำลังขยายตัวเติบโต ปริมาณการค้าและการลงทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ที่ช่วยให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศมากกว่า 7% ต่อปีในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา และในช่วงเวลาเดียวกัน กัมพูชายังได้กลายเป็นปลายทางท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดใจ

"ที่ผ่านมาระบอบฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เขมรแดงที่กินเวลานาน 3 ปี 8 เดือน 20 วัน โดยที่ประชาชนไม่มีสิทธิ ไม่มีเสรีภาพ และใช้ชีวิตท่ามกลางความหวาดกลัว ทำงานหนัก และทุกข์ทรมาน ได้ผ่านพ้นไปหลังวันที่ 7 ม.ค. 2522 เปิดสู่ยุคใหม่ของอิสรภาพ เสรีภาพ ประชาธิปไตย และความก้าวหน้าทางสังคม" ฮุน เซน กล่าว

นอกจากนี้ ฮุน เซน ยังเผยว่ากัมพูชากำลังดำเนินการแผนปฏิบัติการและนโยบายเพื่อพัฒนาประเทศให้มากขึ้น และเรียกร้องให้ชาวกัมพูชาต้องร่วมมือกันปกป้องและรักษาสันติภาพ เพราะสันติภาพนำมาซึ่งการพัฒนาและความก้าวหน้า และยังได้กล่าวแสดงความขอบคุณมิตรประเทศและหุ้นส่วนทั้งหมด สำหรับความร่วมมือและความช่วยเหลือสำหรับการฟื้นฟูก่อสร้างและพัฒนากัมพูชา

ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Khmer Times, 7/01/2019