หลังจากที่บริษัทแกร็บ โฮลดิ้งส์ (Grab) สตาร์ตอัพสัญชาติสิงคโปร์ที่เริ่มจากการสร้างธุรกิจให้บริการรูปแบบ ride sharing และขยายการให้บริการที่ครอบคลุมบริการส่งสินค้าและอาหาร รวมถึงแพลตฟอร์มเพย์เมนต์ จนกลายเป็น 'Super App' อันดับหนึ่งในอาเซียน ล่าสุด Grab เตรียมขยายบริการทางการเงินครั้งใหญ่ ด้วยการขอใบอนุญาตเป็นผู้ให้บริการดิจิทัลแบงกิ้งในสิงคโปร์ ด้วยเหตุผลว่าธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ประกาศเกณฑ์ใหม่ในการอนุญาตให้ธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงินจัดตั้งธนาคารดิจิทัลได้แล้ว
โดยบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตจะสามารถให้บริการโดยไม่จำเป็นต้องมีสาขาธนาคารในรูปแบบเดิม ซึ่งค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการรวมทั้งค่าธรรมเนียมลูกค้าลดลงไปเป็นจำนานมาก ซึ่งการเปิดเสรีทางการเงินครั้งนี้อาจสั่นคลอนธุรกิจการเงินของสิงคโปร์ครั้งใหญ่ ด้านกรรมการผู้จัดการอาวุโส Grab เผยว่ากำลังศึกษาข้อกำหนดของการขอใบอนุญาตจัดตั้งธนาคารดิจิทัลอย่างละเอียด รวมถึงพิจารณาการทำงานร่วมกันอย่างเหมาะสมกับพันธมิตร โดยเฉพาะในประเทศมาเลเซีย ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุดครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 30% ของผู้ใช้บริการทางการเงินออนไลน์ในมาเลเซีย
อย่างไรก็ตาม แม้ Grab จะเป็นเจ้าตลาดในอาเซียนด้วยเงินสนับสนุนจากบริษัทลงทุนหลายแห่ง แต่ยังต้องเผชิญกับคู่แข่งรายใหม่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอินโดนีเซ๊ยอย่าง Go-Jek ที่กำลังทุ่มทุนเพื่อแข่งขันในธุรกิจบริการขนส่งรูปแบบใหม่นี้เช่นกัน โดยแผนการขยายเข้าสู่ธุรกิจการเงินของ Grab เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเสนอขายหุ้นให้ประชาชน (IPO) เพราะคู่แข่งที่ขายหุ้ IPO ไปก่อนหน้าอย่างอูเบอร์ (Uber) และลิฟต์ (Lyft) ไม่สามารถทำกำไรได้ในไตรมาสแรกที่ผ่านมา ทำให้บรรดานักลงทุนยังคงจับตามองการเปิดเผยผลประกอบการของ Grab ว่าจะแตกต่างจากคู่แข่งหรือไม่
ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Asian Nikkei Review, 3/07/2019
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ