กรมโรงงานอุตสาหกรรมหารือกับกระทรวงพลังงานถึงการเตรียมการศึกษาแนวทางการจัดการซากแผงโซลาเซลล์ที่จะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น โดยไม่ให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชน ทั้งนี้มีการประเมินเบื้องต้นว่าภายในอีก 5 ปีข้างหน้า จะมีจำนวนซากโซลาร์เซลล์มากถึง 5-6 แสนตัน ที่มาภาพประกอบ: electricalconnection.com.au
Energy News Center รายงานว่านายทองชัย ชวลิตพิเชฐ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยเมื่อปลายเดือน เม.ย. 2562 ว่ากรมฯ เตรียมออกทีโออาร์เพื่อว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษามาศึกษาถึงแนวทางที่เหมาะสมในการกำจัดซากโซลาร์เซลล์ที่คาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในอนาคต จากนโยบายของรัฐในการส่งเสริมให้มีการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ตั้งแต่ในอดีตถึงปัจจุบัน โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนส่งเสริมเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน จำนวน 10 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการศึกษา 1ปี
นายทองชัย กล่าวว่าแผงโซลาร์เซลล์ที่มีคุณภาพจะมีระยะเวลาในการใช้งานประมาณ 20 ปี ก็จะหมดอายุการใช้งาน แต่ในกรณีที่แผงโซลาร์เซลล์ที่คุณภาพต่ำอายุการใช้งานจะสั้นลงเหลือประมาณ 5-10 ปี เท่านั้น
ที่ผ่านมาในปี 2560 มีการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ทั้งหมดแล้ว ประมาณ 2,400 เมกะวัตต์ และในร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาวของประเทศ หรือแผน PDP ยังมีการรับซื้อไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์อีกกว่า 10,000 เมกะวัตต์
ดังนั้นกรมโรงงานอุตสาหกรรม จึงได้มีการหารือกับกระทรวงพลังงานถึงการเตรียมการศึกษาแนวทางการจัดการซากแผงโซลาเซลล์ที่จะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นโดยไม่ให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชนทั้งนี้มีการประเมินเบื้องต้นว่าภายในอีก 5 ปีข้างหน้า จะมีจำนวนซากโซลาร์เซลล์มากถึง 5-6 แสนตัน
ทั้งนี้ปัจจุบันยังไม่มีการลงทุนสร้างโรงงานกำจัดซากโซลาร์เซลล์โดยเฉพาะมีแต่เพียงการลงทุนสร้างโรงงานรีไซเคิลแผงโซลาร์เซลล์เพียง 1 โรงเท่านั้น ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยเป็นการนำแผงเก่าที่หมดอายุการใช้งานมาเปลี่ยนแผ่นเซลล์เพื่อนำกลับไปใช้ใหม่ ส่วนแผ่นเซลล์ที่หมดอายุก็ใช้วิธีส่งคืนผู้ผลิตต่างประเทศหรือนำมาบดย่อยซากโซลาเซลล์และฝังกลบในหลุมฝังกลบอุตสาหกรรม (Secure Landfill)
อย่างไรก็ตามปัจจุบันยังมีจำนวนของซากแผงโซลาเซลล์ไม่มากนัก นักลงทุนส่วนใหญ่จึงยังติดตามสถานการณ์การลงทุนอยู่ แต่กรมโรงงานอุตสาหกรรมคาดว่าอีก 5-10 ปี ข้างหน้าเมื่อมีจำนวนซากแผงโซลาร์เซลล์มากขึ้น ก็จะมีการตั้งโรงงานประเภทนี้มากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลางหรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เป็นพื้นที่ที่มีโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์หรือการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปอยู่จำนวนมาก
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ