สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เผยว่าชาวมุสลิมโรฮิงญากว่า 500,000 คน ที่ลี้ภัยจากพม่าไปอยู่ในบังกลาเทศเพิ่งจะได้รับบัตรประจำตัวเป็นครั้งแรก หลังจากลี้ภัยมานานเกินหนึ่งปี โดยผู้ลี้ภัยเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นคนไร้รัฐ และไม่เคยมีเอกสารแสดงตนมาก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ UNHCR เริ่มทำบัตรประจำตัวให้กับผู้ลี้ภัยที่อยู่ในค่าย Kutupalong ในชายแดนค็อกซ์บาซาร์ เป็นที่แรกก่อนจะทยอยสำรวจผู้ลี้ภัยที่ไม่ได้อยู่ในค่ายรวมถึงผู้ลี้ภัยที่อยู่ในเขตแดนของบังกลาเทศแล้ว

บัตรประจำตัวดังกล่าวจะออกให้กับผู้ลี้ภัยที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป เป็นการเตรียมความพร้อมในการส่งกลับพม่า หลังจากเดือนที่แล้วเจ้าหน้าที่รัฐบาลพม่าได้พบปะกับตัวแทนผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาที่ชายแดนค็อกซ์บาซาร์ในบังกลาเทศ เพื่อหารือกำหนดเงื่อนไขในการส่งตัวกลับประเทศอย่างปลอดภัย ตามที่ได้ตกลงกับชาวโรฮิงญาเอาไว้

ด้านนาย Andrej Mahecic โฆษกของ UNHCR ประจำชายแดนพม่า-บังกลาเทศ เผยว่ามีผู้ลี้ภัยกว่า 9 แสนคนในพื้นที่เขตชายแดนค็อกซ์บาซาร์ ซึ่งตอนนี้เราได้ทยอยให้ัตรประจำตัวไปแล้วถึง 5 แสนคน และหวังว่าจะสามารถให้บัตรกับคนที่เหลือได้ในเร็ววันนี้ เราใช้เจ้าหน้าที่มากกว่า 500 คนในภารกิจดังกล่าว ซึ่งเราให้ความสำคัญมาก แต่กระบวนการส่งกลับประเทศพม่ายังเป็นการตัดสินใจของชาวโรฮิงญาเอง

ที่มาข่าวและภาพประกอบ: United Nations, 10/08/2019