นาย Airlangga Hartarto รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย เผยว่ารัฐบาลมีแผนที่จะเปิดเสรีภาคอุตสาหกรรมในประเทศเพื่อรองรับบรรดานักลงทุนต่างชาติ และผ่อนคลายกฎหมายแรงงานที่เข้มงวด เพราะตั้งเป้าจะเป็นฮับการผลิตระดับภูมิภาคให้ทัดเทียมกับเยอรมนีหรือเกาหลีใต้ให้ได้ โดยจะเน้นไปที่อุตสาหกรรมยานยนต์ เคมีภัณฑ์ และอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเป็น 25% ภายในปี 2568 จาก 20% ในปัจจุบัน

"ป้าหมายของเราคือการเป็นฮับการผลิตแห่งอาเซียน เราจะหาทางแซงหน้าเยอรมนีและเกาหลีใต้ และเทียบชั้นกับจีน ในฐานะฐานผลิตสินค้าทุกประเภทตั้งแต่รถพลังงานไฟฟ้าไปจนถึงปิโตรเคมีภัณฑ์" Airlangga Hartarto กล่าว

ที่ผ่านมาอินโดนีเซีย เติบโตในอัตราราว 5% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ที่ตั้งไว้ที่ 7% เนื่องจากประเทศพึ่งพาการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์มานานหลายปี โดยแผนนำร่องของรัฐบาลอินโดนีเซียในการกระตุ้นภาคการผลิตจะรวมไปถึงการผ่อนคลายกฎระเบียบว่าด้วยเงื่อนไขในการลงทุนสาหรับชาวต่างชาติ ซึ่งกำหนดสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติในอุตสาหกรรมหลายร้อยประเภท การยกเว้นภาษีสำหรับบริษัทภายในประเทศและต่างชาติ และการปฏิรูปกฎหมายแรงงาน

Airlangga Hartarto  เผยอีกว่าขณะที่ทั่วโลกหันมาใช้รถพลังงานไฟฟ้ากันมากขึ้น อินโดนีเซียจึงต้องการให้รถที่ใช้แบตเตอรี่มีสัดส่วนเพิ่มเป็น 20% ของผลผลิตรวมทั้งประเทศภายในปี 2568 อีกด้วย

ที่มาข่าวและภาพประกอบ: The Business Times, 8/05/2019