นาย Enggartiasto Lukita รัฐมนตรีกระทรวงการค้าของอินโดนีเซีย เผยว่าได้เชิญผู้ประกอบการนำเข้าผลิตภัณฑ์นมและสินค้าที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมร่วมกันเพื่อให้บริษัททุกแห่งเตรียมหาแหล่งนำเข้าสินค้าจากประเทศคู่ค้าสำรอง ที่ไม่ใช่ประเทศซึ่งเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) เนื่องจากรัฐบาลเตรียมใช้มาตรการกำแพงภาษีตอบโต้สินค้าดังกล่าวของ EU ในอัตราสูงสุด 25% หากอีก EU ขึ้นภาษีผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มของอินโดนีเซีย

"เมื่อใดก็ตามที่ EU ประกาศกำแพงภาษีอัตราระหว่าง 8% ถึง 18% ต่อผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มของอินโดนีเซีย เราจะตอบโต้ทันทีด้วยกำแพงภาษี 20% ถึง 25% ต่อผลิตภัณฑ์นมและสินค้าที่เกี่ยวข้องซึ่งผลิตใน EU" นาย Enggartiasto Lukita กล่าว

อย่างไรก็ตามปัจจุบันอินโดนีเซียและมาเลเซียเป็นประเทศผู้ผลิตปาล์มน้ำมันรายใหญ่อันดับ 1 และ 2 ของโลก โดยครองสัดส่วนในตลาดโลกร่วมกันมากถึง 85% ขณะที่ EU ออกมาตรการระงับนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงชีวภาพซึ่งจะมีผลภายในปีหน้า ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับความวิตกกังวลด้านสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ เนื่องจากต้องมีการเผาป่าเป็นวงกว้างเพื่อปลูกพืชชนิดนี้ รวมถึงการคุกคามชีวิตสัตว์โดยเฉพาะลิงอุรังอุตัง ซึ่งอินโดนีเซียมองว่าเป็นการกีดกันทางการค้ามากกว่า

ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Channel News Asia, 9/08/2019