สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันไทยเข้าร่วม CPTPP แน่นอน ยื่นเรื่องเข้าเป็นสมาชิกเรียบร้อยแล้ว จะนำเข้าที่ประชุม ครม.ภายในเดือน มี.ค. นี้ เดินหน้าเจรจา RCEP แนะร่วมมือกันผลักดันส่งออกโตตามเป้า ที่มาภาพประกอบ: FTW Online

สำนักข่าวไทย รายงานเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2562 ว่านายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ว่า แม้ช่วงการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง สิ่งสำคัญประเทศไทยต้องทำตัวดีๆ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือในสายตาของนักลงทุนทั่วโลก แม้ใครจะดำรงตำแหน่งอะไร ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน และจะต้องไม่ทำให้ต่างชาติตกใจ ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยมีเรื่องดี 2-3 เรื่อง ได้แก่ เร็วๆ นี้จะมีพิธีบรมราชาภิเษก เลือกตั้ง และเป็นประธานอาเซียน สะท้อนให้เห็นว่าคนทั้งโลกรู้จักไทยมากขึ้นจึงเป็นโอกาสดีที่ประเทศไทยจะสร้างให้คนทั่วโลกรู้จักแม้จะเกิดปัญหาและอุปสรรคบ้าง

นอกจากนี้ยังฝากกระทรวงพาณิชย์เร่งดำเนินการ คือ ไทยยืนยันจะเข้าเป็นสมาชิกความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) แน่นอน ซึ่งได้ยื่นเรื่องเข้าเป็นสมาชิกเรียบร้อยและจะนำเข้าที่ประชุม ครม.ภายในเดือน มี.ค. นี้ เพื่อให้กระทรวงพาณิชย์เดินหน้าไปเจรจากับประเทศต่าง ๆ ที่จะขอให้ไทยเข้าเป็นสมาชิกทันปีนี้ อีกทั้งยังกำชับการเจรจาภายในกรอบรัฐมนตรีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ในฐานะที่ไทยเป็นเจ้าภาพอาเซียน โดยมอบหมายให้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เร่งดำเนินการกรอบอาร์เซ็ปเดินสายเจรจาการค้ากับอินเดีย รวมถึงการค้าระหว่างจีนกับญี่ปุ่น เพราะเชื่อว่าอาร์เซ็ปและกรอบ CPTPP ชัดเจนจะทำให้การค้าการลงทุนของไทยเติบโตอย่างมั่นคง และยังคงเดินหน้าทำภายใต้กรอบ CLMVT เพราะที่ผ่านมาการค้าในกลุ่มเติบโตได้ดี เชื่อว่าโอกาสขยายตลาดภายในกลุ่มดังกล่าวยังจะเกิดขึ้นและเติบโตอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าขณะนี้หลายฝ่ายวิตกกังวลการส่งออกไทยจะมีปัญหา จึงได้มอบหมายให้อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศไปหารือกับทูตพาณิชย์ทั่วโลกว่าจะทำอย่างไรให้เป้าหมายการส่งออกของไทยเป็นไปตามที่คาดไว้ คือ ร้อยละ 8 ซึ่งหลายประเทศกังวลและวิตกว่าการส่งออกของไทยอาจจะมีปัญหาหลายมิติ แต่เชื่อว่าหากทุกฝ่ายร่วมมือกันหาตลาด โดยความร่วมมือของทูตพาณิชย์น่าจะผลักดันการส่งออกเป็นไปตามเป้าหมาย โดยยังไม่ปรับตัวเลขส่งออก

นอกจากนี้ยังฝากอธิบดีกรมการค้าภายในติดตามและเดินหน้าโครงการต่างๆ ที่ยังค้าง เช่น ธงฟ้าประชารัฐ การพัฒนาเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง เชื่อว่ายังสามารถสร้างความเข้มแข็งให้กับโครงการและคนในชุมชนต่างๆ ได้อย่างดี