คุณภาพอากาศในสิงคโปร์แตะระดับที่ไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพตั้งแต่วันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา โดยดัชนีมาตรฐานมลพิษทางอากาศ (PSI) พุ่งเกินระดับ 100 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2559 โดยหน่วยงานสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (National Environment Agency; NEA) เผยว่าเป็นผลมาจากการไหลมาบรรจบกันของลมเหนือพื้นที่ใกล้เคียงที่ทำให้หมอกควันจากสุมาตราถูกพัดมายังสิงคโปร์มากขึ้น ด้านนาย Masagos Zulkifli รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรน้ำของสิงคโปร์ ชงประเด็น 'อาเซียนไร้หมอกควัน' โดยสิงคโปร์จะช่วยเหลือทางด้านวิชาการแก่ประเทศใกล้เคียง

NEA เผยว่ามาเลเซียก็มีคุณภาพอากาศแย่ลงในระดับไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพเช่นกัน โดยบริเวณรอบกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมอกควัน ซึ่งเป็นอากาศครั้งเลวร้ายที่สุดในมาเลเซีย  โดยได้รับผลกระทบจากไฟป่าในอินโดนีเซียนานหลายสัปดาห์ โดยล่าสุดระดับดัชนี PSI ระดับไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพอยู่ที่ 101-200 ซึ่งเด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และผู้ป่วยโรคหัวใจ ควรไม่ออกนอกบ้าน

นอกจาอกนี้นาย  Masagos Zulkifli เผยว่าสมาชิกประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน จำเป็นต้องร่วมมือในการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามพรมแดนอย่างจริงจัง เพราะเป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้คุณภาพอากาศในภูมิภาคแย่ลง ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศประเทศในอาเซียน สมาชิกกลุ่มประเทศอาเซียนมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องร่วมมือกันเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ 'อาเซียนไร้หมอกควัน' ในปีหน้า โดยสิงคโปร์จะเสนอให้ความช่วยเหลือทางวิชาการแก่อินโดนีเซียต่อสู้กับไฟป่า ส่วนมาเลเซียเสนอให้ความช่วยเหลือทางวิชาการแก่อินโดนีเซียเพื่อขจัดไฟป่าในกาลิมันตัน

ที่มาข่าวและภาพประกอบ: New Straits Times, 15/09/2019