ททท.นครพนม เปิดเส้นทางท่องเที่ยวตามรอยลุงโฮ นครพนม-พิจิตร-อุดรธานี

กองบรรณาธิการ TCIJ 17 ส.ค. 2562 | อ่านแล้ว 3835 ครั้ง

ททท.นครพนม เปิดเส้นทางท่องเที่ยวตามรอยลุงโฮ นครพนม-พิจิตร-อุดรธานี

ททท.นครพนม เปิดเส้นทางท่องเที่ยวตามรอยโฮจิมินห์ หรือลุงโฮ จังหวัดนครพนม-พิจิตร-อุดรธานี ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน ที่มาภาพ: สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ รายงานเมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2562 ว่านายสุหฤทธิ์ ชาญวนังกูร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครพนม นำสื่อมวลชนสัญจร เปิดเส้นทางท่องเที่ยวตามรอยโฮจิมินห์ หรือลุงโฮ จังหวัดนครพนม-พิจิตร-อุดรธานี ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน โดยเริ่มจากบ้านนาจอก ตำบลหนองญาติ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ที่มีอนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์เมื่อครั้งพำนักอาศัยในจังหวัดนครพนม ไปตามเส้นทางจังหวัดกาฬสินธุ์ ชมหอศิลป์กาฬสินธุ์ ที่ให้จิตรกรศิลปินแห่งชาติวาดภาพสามมิติแต่ละอำเภอบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาอัตลักษณ์ของดีทั้ง 18 อำเภอ เป็นการแนะนำให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักก่อนที่จะลงไปสัมผัสพื้นที่จริง ณ ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์หลังเก่า จากนั้นเข้าสู่จังหวัดพิจิตร กราบนมัสการหลวงพ่อเพชร หลวงพ่อเงิน และวัดต่างๆ ชมดอกกระเจียวบานที่บ้านเขาโล้น อำเภอทับคล้อ ชมบึงสีไฟ ชิมส้มโอรสหวานท่าข่อย และบ้านดง บ้านพักอาศัยของลุงโฮที่มารณรงค์ให้คนเวียดนามร่วมกันกู้ชาติ โดยใช้ชื่อว่าเฒ่าจิ๋น เพื่ออำพรางตัวในการถูกไล่ล่าจากฝรั่งเศส ออกจากพิจิตร เข้าสู่จังหวัดอุดรธานี โดยระหว่างทางนักท่องเที่ยวสามารถกราบนมัสการพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ตั้งอยู่กลางขุนเขาธรรมชาติวิวทิวทัศน์สวยงาม จากนั้นเดินทางสู่แหล่งประวัติศาสตร์โฮจิมินห์ บ้านหนองฮาง (หนองโอน) ตำบลเชียงพิณ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ที่บอกเล่าความเป็นมาโดยยังคงเก็บรักษาฉางข้าวไว้เมื่อครั้งลุงโฮใช้เก็บข้าวเปลือกไว้ตำเป็นข้าวสาร มีการจำลองบ้านพัก การเลี้ยงไก่ เลี้ยงหมู ครกตำข้าว อาคารแสดงประวัติศาสตร์การเดินทางกู้ชาติจนประสบความสำเร็จ

ประธานโฮจิมินห์ ออกเดินทางจากเวียดนามตั้งแต่อายุ 21 ปี ที่ท่าเรือมังกร นครโฮจิมินห์ โดยเรือของฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2454 ไปประเทศฝรั่งเศส อังกฤษ สหรัฐอเมริกา อเมริกาใต้ อาฟริกา และกลับมายังยุโรปที่ประเทศเยอรมันนี รัสเซีย เอเชีย โดยใช้เวลาอยู่ในต่างประเทศเป็นเวลา 30 ปี เพื่อหาหนทางกอบกู้บ้านเมือง เมื่ออายุ 38 ปี ได้เดินทางจากเมืองนาโปลี ประเทศอิตาลี กลับสู่เอเชียผ่านสิงคโปร์ เข้าสู่ประเทศสยาม(ในขณะนั้น) สมัยรัชกาลที่ 7 อยู่ที่กรุงเทพมหานคร แล้วเดินทางไปที่บ้านดง จังหวัดพิจิตร เพื่อตั้งขบวนการกู้ชาติ แล้วเดินทางต่อมาจังหวัดอุดรธานี และอีกหลายจังหวัดในภาคอีสานที่มีชาวเวียดนาม สุดท้ายที่จังหวัดนครพนม ซึ่งสิ่งที่ถือว่าเป็นมรดกที่สำคัญได้มอบไว้ให้ชาวเวียดนามมี 2 ประการ คือ ประการที่ 1 ความมีเอกราชของประเทศที่มีค่ามากที่สุด โดยให้มีความรักความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจะสามารถเอาชนะอุปสรรคได้ ประการที่ 2 มีความขยัน อดทน ประหยัด ซื่อสัตย์ ประกอบอาชีพให้มั่นคงด้วยการเริ่มต้นจากตัวเองก่อนก่อนร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อมีความมั่นคงประสบความสำเร็จแล้วให้หันกลับมาช่วยเหลือสังคม และเวียดนามมีพัฒนาเมืองมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งปัจจุบันได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกไม่ถาวรจากสภาความมั่นคงของสหประชาชาติ ชาวเวียดนามจึงเชื่อมั่นว่าการเดินตามทางที่ลุงโฮชี้แนะไว้ถูกต้องแล้วและจึงเกิดความศรัทธามากขึ้น

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: