สถานการณ์ค่าเงินริงกิตและความเชื่อถือของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจของมาเลเซียเข้าขึ้นวิกฤต เมื่อ FTSE Russell ของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนเผยว่าเตรียมถอนพันธบัตรมาเลเซียออกจากดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (FTSE World Government Bond Index) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสภาพคล่องในตลาด ทำให้สกุลเงินและพันธบัตรมาเลเซียไร้เสถียรภาพ โดยเงินริงกิตอ่อนค่าลงถึง 1.5% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ในเดือนที่ผ่านมา
นาย Winson Phoon หัวหน้าฝ่ายวิจัยตราสารหนี้ของ Maybank เผยว่าความเสี่ยงในการตัดพันธบัตรมาเลเซียออกจากดัชนีหลัก มีความเป็นไปได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เว้นแต่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน เพื่อปรับปรุงระดับการเข้าถึงตลาดของมาเลเซีย โดยเงินริงกิตลดลงไปแล้วราว 0.3% เทียบกับดอลลาร์ในปีนี้
นอกจากตัวแทนของ Morgan Stanley บริษัทให้บริการทางการเงินระดับโลก เผยอีกว่าท่าทีดังกล่าวของตลาดทุนชั้นนำของโลก ยิ่งทำให้เกิดแรงกดดันต่อตลาดหุ้นของมาเลเซีย เพราะขณะนี้ดัชนีหุ้นมาเลเซียมีผลงานต่ำกว่ามาตรฐานตลาดหุ้นทั่วโลกในปีนี้ หากมาเลเซียหลุดจากดัชนี FTSE มูลค่าการถอนตัวจากพันธบัตรอาจสูง 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
อย่างไรก็ตามกระแสความคาดหวังในแง่บวกเกี่ยวกับหุ้นของมาเลเซียได้จางหายไป หลังจากผ่านไปเกือบหนึ่งปีนับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัดชนะการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว สาเหตุที่กระแสบวกหายกลายเป็นกระแสลบ ก็เพราะรัฐบาลชุดใหม่ยังไม่สามารถจัดกับกับปัญหาหนี้สินที่รัฐบาลก่อนได้ก่อขึ้น
ที่มาข่าวและภาพประกอบ: The Straits Times, 19/04/2019
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ