เรียกร้องหยุดโครงการวังหีบ-ให้เจ้าหน้าที่รัฐยุติการคุกคามชาวบ้าน

กองบรรณาธิการ TCIJ 22 ม.ค. 2562 | อ่านแล้ว 2800 ครั้ง

เรียกร้องหยุดโครงการวังหีบ-ให้เจ้าหน้าที่รัฐยุติการคุกคามชาวบ้าน

เครือข่ายปกป้อง ดิน น้ำป่า นครศรีธรรมราช รวมตัวกัน ณ สนามหน้าเมือง ด้านกรมชลประทาน เดินเท้าไปยังหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อคัดค้านเขื่อนวังหีบ อ.ทุ่งสง เขื่อนคลองสังข์ อ.ทุ่งใหญ่ คลองผันน้ำ อ.เมือง และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐยุติการคุกคามชาวบ้าน ที่มาภาพ: ไทยโพสต์

เว็บไซต์ไทยโพสต์ รายงานเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2562 ว่าเครือข่ายปกป้อง ดิน น้ำป่า นครศรีธรรมราช รวมตัวกัน ณ สนามหน้าเมือง ด้านกรมชลประทาน เดินเท้าไปยังหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อคัดค้านเขื่อนวังหีบ อ.ทุ่งสง เขื่อนคลองสังข์ อ.ทุ่งใหญ่ คลองผันน้ำ อ.เมือง และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐยุติการคุกคามชาวบ้าน

ทั้งนี้ เครือข่ายฯ ระบุด้วยว่า ถึงเวลาที่รัฐบาลต้องตัดสินใจยกเลิกมติ ครม.ซึ่งเปิดทางให้เกิดการสร้างเขื่อนและขุดคลองเมืองนคร โดยจะเดินทางไปรับฟังสำนึกของรัฐบาลที่มีต่อประชาชนในวันที่ 25 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล และจะปักหลักอยู่ที่นั้นจนกว่าสำนึกของรัฐบาลที่มีต่อประชาชนจะเกิดขึ้น

"ในโอกาสนี้ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและข้าราชการ ยุติการกระทำการใดๆที่เป็นการข่มขู่ คุกคาม อ้างข้อเท็จ มาเกลี้ยกล่อมประชาชนอีกต่อไป ที่ผ่านมาล้วนพิสูจน์แล้วว่าพวกท่านทั้งหลายมิใช่ที่พึ่งประชาชน ขอให้เมืองนครรู้เท่าทันกลเกมส์เหล่านี้และอย่ายอมให้บุคคลเหล่านี้ใช้แผ่นดินเมืองนครกระทำการทุจริตต่อแผ่นดิน"

เครือข่ายฯ ระบุด้วยว่าการสร้างเขื่อนทั้งคลองสังข์และวังหีบเป็นการสร้างเป้าหมายเท็จให้เป็นเป้าหมายจริง เพื่อสร้างความชอบธรรมให้เกิดการสร้างเขื่อน ข้ออ้างสำหรับการสร้างเขื่อนคือการป้องกันน้ำท่วมและเพื่อการเกษตร ทั้งที่ลำน้ำวังหีบไม่ผ่านเมืองทุ่งสง พื้นที่การเกษตรเปลี่ยนไปแล้ว เขื่อนไม่เคยป้องกันน้ำท่วมแต่ทำหน้าที่ปล่อยน้ำท่วมพื้นที่ชาวบ้านเสมอ โดยในฤดูแล้งไม่มีน้ำเพราะป่าต้นน้ำถูกทำลายจากการสร้างเขื่อน ทั้งเขื่อนคลองสังข์และวังหีบจึงเป็นโครงการหาผลประโยชน์บนหายนะของประชาชน

การสร้างเขื่อนและการขุดคลองนับวันจะเพิ่มขึ้นทุกที จนประชาชนไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ยิ่งสร้างเขื่อนระบบน้ำและการเกษตรยิ่งหายนะ น้ำถูกผันไปให้ภาคอุตสาหกรรมใช้ ทั้งนี้การก่อสร้างมีการใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลมีการโกงกินกันอย่างแพร่หลายทุกระดับ เฉพาะการขุดลอกคลองผันน้ำเมืองนครมีการใช้งบประมาณเกือบหนึ่งหมื่นล้านบาท

"ทำไมเราต้องให้ผู้คนมาใช้แผ่นดินเมืองนครเป็นพื้นที่กระทำการโกงกินงบประมาณแผ่นดิน ทำไมเราต้องยอมให้พี่น้องของเราพลัดพรากจากแผ่นดินเกิดด้วยการไล่รื้อเพื่อเอาพื้นที่สร้างเขื่อนขุดคลอง ทำไมเราจะยอมให้การเกษตรล่มสลาย ผู้คนไม่มีน้ำกินน้ำใช้จากความมักง่ายของกรมชลประทาน" เครือข่ายฯ ระบุทิ้งท้าย

สองผู้ต้องหาวังหีบมอบตัว - จ่อแจ้งดำเนินคดีนายอำเภอ ม.157

เว็บไซต์สยามรัฐ รายงานเมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2562 ว่าชาวชุมชนวังหีบ ต.นาหลวงเสน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่โครงการก่อสร้างเขื่อนวังหีบของกรมชลประทาน วันนี้มีการรวมตัวกันอีกครั้ง โดยผู้อาวุโสที่ชาวชุมชนเรียกว่าพ่อเฒ่าแม่เฒ่า มาร่วมตัวกันเพื่อให้พรกับนายวุฒิชัย แก้วลำหัด และนางนงลักษณ์ ผาสุก สมาชิกชุมชน ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาถูกดำเนินคดี โดยนายจิรโรจน์ สำแดง นายอำเภอทุ่งสง ผู้อาวุโสได้ร่วมกันนั่งริมธารน้ำวังหีบเพื่อเป็นสัญลักษณ์ ในการปกป้องรักษาธารน้ำสายนี้และกล่าวให้พรนายวุฒิชัย และนางนงลักษณ์ ท่ามกลางเสียงสะอื้นด้วยความคับแค้นใจที่ลูกหลานต้องถูกดำเนินคดีเพราะการออกมาปกป้องชุมชนพื้นที่ทำกินรวมทั้งผืนป่าและสายน้ำเส้นนี้

สำหรับนายวุฒิชัย แก้วลำหัด และนางนงลักษณ์ ผาสุก ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในข้อกล่าวหาร่วมกันกระทำการใดๆให้ทางสาธารณะ ประตูน้ำ ทำนบ เขื่อน อันเป็นส่วนของทางสาธารณ หรือที่ขึ้นลงของอากาศยาน อยู่ในลักษณะอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่การจราจร มีการแจ้งความร้องทุกข์โดยนายจิรโรจน์ สำแดง นายอำเภอทุ่งสง หลังจากที่ชาวบ้านได้เคลื่อนไหวประกาศปกป้องพื้นที่ห้ามไม่ให้กรมชลประทานเข้าทำการใดๆ ภายหลังจาก ครม.มีมติให้ดำเนินการสร้างเขื่อนวังหีบโดยไม่สนใจเสียงคัดค้านชาวบ้าน

หลังจากพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งสง มีหมายเรียกมาก่อนหน้านี้ทั้งสองคน พร้อมด้วยนายกฤษดา ขุนณรงค์ และนายอธิวัฒน์ เส้งคุ่ย ทนายความเครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนภาคใต้ ได้เข้าให้การช่วยเหลือทางคดี ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทั้งสองคนทราบ ก่อนที่จะทำการสอบสวนและปล่อยตัวชั่วคราวไปโดยไม่ต้องประกันตัว

ภายหลังจากที่พนักงานสอบสวนได้ทำการปล่อยตัว ชาวบ้านต่างมาให้กำลังใจและร่วมกันแถลงการณ์มีสาระสำคัญ บางช่วงความว่าพฤติการณ์นายอำเภอทุ่งสงแจ้งความดำเนินคดีกับพวกเรา ถือเป็นความพยายามที่จะปิดกั้น และปิดปากการแสดงออกของพวกเราที่ได้ออกมาสื่อสารถึงความเดือดร้อนของตนเองจากโครงการสร้างเขื่อนวังหีบ อันถือเป็นการข่มขู่ คุกคามให้ชาวบ้านทั้งหลายตกอยู่ในความหวาดกลัว

แถลงการณ์ระบุด้วยว่า การเข้ามารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.ทุ่งสง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาของพวกเราในวันนี้ เป็นการแสดงถึงความบริสุทธิ์ใจของพวกเราทุกคน และเพื่อสื่อสารไปยังผู้ที่ไม่หวังดีทั้งหลายได้รับรู้ว่า พวกเราทั้งหลายไม่ได้เกรงกลัวต่ออำนาจอันไม่ชอบธรรมที่เกิดขึ้นนี้แต่อย่างใด และพร้อมที่จะพิสูจน์ถึงความบริสุทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรม โอกาสนี้จึงขอประกาศร่วมกันว่า พวกเราจะยืนหยัดในเจตนารมณ์การปกป้องดิน น้ำ ป่า และวิถีชีวิตของพวกเราทุกคนบนผืนแผ่นดิน และผืนป่าวังหีบแห่งนี้อย่างถึงที่สุด และขอประณามทุกการกระทำที่หวังจะข่มขู่ คุกคาม ปิดกั้น ปิดปาก ประชาชน

ขณะที่นายกฤษดา ขุนณรงค์ ทนายความเปิดเผยว่าผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองรายได้ทำบันทึกคำให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และหลังจากนี้จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเป็นเวลา 30 วันเพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน นอกจากนั้นทีมกฎหมายกำลังพิจารณารวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน อาจมีการพิจารณาแจ้งความดำเนินคดีกับนายอำเภอทุ่งสง อีกด้วยโดยพบว่ามีข้อเท็จจริงและพฤติการณ์มากกว่าที่ปรากฏ ต้องรอดูและพิจารณาว่าเพียงพอในการดำเนินคดีหรือไม่


เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ชาวจะนะ-เทพาประกาศยืนเคียงข้างชาววังหีบ เตรียมยื่นหนังสือ 25 ม.ค.นี้
ชาวบ้านวังหีบแจงไม่มีนายทุนหนุนหลัง เผย EIA ระบุผู้ถือครองที่ดินไว้ชัด
ชาวบ้านโบกธงไล่ ฮ.บินสำรวจพื้นที่ 'โครงการวังหีบ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ'
เปิดแฟ้ม 'โครงการวังหีบ' ปี 2561 ครม.อนุมัติ-ภาคประชาชนคัดค้าน 
จับตา: รายละเอียด 'โครงการวังหีบ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นครศรีธรรมราช' 
ไทม์ไลน์ความเคลื่อนไหวโครงการวังหีบรอบปี 2561

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: