นายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ที่เพิ่งชนะการเลือกตั้งครั้งที่สองในชีวิตมาได้ไม่นาน เผยว่ารัฐบาลมีแผนที่จะเร่งการก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจ็กต์คือแนวกำแพงความยาวกว่า 30 กิโลเมตรบริเวณชายฝั่งด้านตะวันตกและตะวันออกของกรุงจาการ์ตา หลังผู้เชี่ยวชาญในอินโดนีเซียคาดการณ์ว่าพื้นที่ 1 ใน 3 ของกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของประเทศที่มีประชากรอยู่อาศัยเกือบ 10 ล้านคน จะจมอยู่ใต้น้ำภายในปี 2050 หรือภายในเวลาอีกเพียง 31 ปีข้างหน้าหากยังไม่มีมาตรการป้องกัน
โครงการดังกล่าวมีมูลค่าถึง 1.3 ล้านล้าน และถูกพิจารณืมาแล้วหลายครั้ง รวมเวลากว่า 10 ปี แต่ในรัฐบาลของนายโจโก วิโดโด โครงการนี้ถูกนำหลับมาพิจารณาอีกครั้ง และดูเหมือนจะว่าจะอยู่ในความสำคัญลำดับต้นๆ ของรัฐบาลชุดใหม่นี้ เพราะที่ผ่านมาจาการ์ตาถูกวิจารณ์มาโดยตลอดว่ามีการจัดการผังเมืองที่ไม่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ภาวะโลกร้อนยังทำให้ปัจจุบันพื้นที่ตอนเหนือของเมืองทรุดลงถึงราว 10 เซนติเมตรต่อปี รวมถึงการสูบใช้น้ำบาดาลของประชาชนในจาการ์ตา ทั้งหมดนี้เป็นาสาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วม
นอกจากนี้ ชุมชน Muara Angke ซึ่งเป็นชุมชนสลัมที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทางตะวันตกของกรุงจาการ์ตากำลังเผชิญความเสี่ยงอย่างเห็นได้ชัด เพราะแม้จะมีแนวกำแพงมานานหลายปี แต่กำแพงกลับเริ่มรอยร้าว ทำให้น้ำรั่วเข้ามาจนท่วมถนนที่อยู่ติดกำแพงเป็นประจำ อย่างไรก็ตามชาวบ้านในละแวกไม่ได้เห็นด้วยกับการสร้างกำแพงทั้งหมด โดยเฉพาะชาวประมงซึ่งเห็นว่าการสร้างกำแพงทะเลจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและการทำมาหากินของพวกเขาเช่นกัน
ที่มาข่าวและภาพประกอบ: The Jakarta Post, 24/07/2019
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ