1 มิ.ย. 2563 ศบค. แถลงไทยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 1 คน รวมผู้ติดเชื้อสะสม 3,082 คน ผู้เสียชีวิตสะสม 57 คน รักษาหายเพิ่ม 2 คน รวมรักษาหายสะสม 2,965 คน รอบ 7 วันผู้ป่วย COVID-19 ภายในประเทศเป็นศูนย์ พบมาจากกลุ่มที่เดินทางกลับจากต่างประเทศอยู่ใน State Quarantine รวมแล้ว 145 คน ขณะที่ 2 สัปดาห์กลุ่มฟรีแลนซ์ พนักงานนวดเสี่ยงมากที่สุด แนะคนไทยคงเข้มมาตรการเข้าผ่อนปรนระยะ 3
1 มิ.ย.2563 Thai PBS รายงานว่านพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าวสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ว่าพบมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 1 คน รวมสะสม 3,082 คน หายป่วยเพิ่มขึ้น 2 คนรวมหายป่วยกลับบ้าน 2,965 คน รักษาอยู่ที่โรงพยาบาล 60 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม คงที่ 57 คน
นพ.ทวีศิลป์ สำหรับผู้ป่วยใหม่ 1 คน เดินทางมาจากประเทศรัสเซีย เป็นผู้ป่วยหญิง อายุ 43 ปี เข้าพักที่ State Quarantine ใน จ.ชลบุรี ตรวจเชื้อครั้งแรกวันที่ 24 พ.ค.ไม่พบเชื้อ แต่ตรวจพบเชื้อครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยไม่มีอาการป่วย
“ภาพรวมการติดเชื้อภายในประเทศเป็นศูนย์คนมาแล้ว 7 วัน โดยพบผู้ติดเชื้อมาจาก State quarantine แต่ 7 วันยังไม่น่าไว้วางใจ ต้องจับตา 2-3 สัปดาห์ โดยเฉพาะในช่วงผ่อนปรนระยะที่ 3”
โฆษกศบค.กล่าวอีกว่าสำหรับผู้ป่วยที่พบจาก State Quarantine พบผู้ป่วยรวม 145 คน ในส่วนของรัสเซียที่พบผู้ป่วยเพิ่มในวันนี้ 1 คน มีผู้เดินทางมาสะสม 292 คน พบป่วยแล้ว 4 คน รวมรายใหม่
ฟรีแลนซ์-ค้าขาย ยังเป็นอาชีพเสี่ยง
นอกจากนี้หากจำแนกผู้ป่วยสะสมตามปัจจัยเสี่ยง 5 อันดับแรก ได้แก่ พบสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้ามากสุด 1,191 คน รองลงมาคืออาชีพเสี่ยง 284 คน สนามมวย 274 คน คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 269 คน และสถานบันเทิง 227 คน
ขณะที่ในรอบ 2 สัปดาห์ล่าสุด พบปัจจัยเสี่ยงผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State Quarantine มากสุด 45 คน รองลงมาคือสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 3 คน และไปสถานที่ชุมชน เช่น ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว 3 คน
ส่วนผู้ป่วยยืนยันจำแนกตามอาชีพ พบมากสุด รับจ้างทั่วไป หรือฟรีแลนซ์ 412 คน รองลงมา ค้าขายธุรกิจส่วนตัว 363 คน พนักงานบริษัท โรงงาน 272 คน นักเรียน นักศึกษา 206 คน และพนักงานในสถานบันเทิง 199
“ในช่วง 2 สัปดาห์พบอาชีพเสี่ยง รับจ้างทั่วไป ฟรีแลนซ์มากสุด 12 คน รองลงมาคือพนักงานนวด 11 คน”
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับจำนวนการตรวจ COVID-19 โดย RT-PCR มีการตรวจแล้วจำนวน 420,529 ตัวอย่าง โดยมีการวางแผนตรวจเชิงรุกเพิ่มเติม
เกาหลีใต้-ปากีสถาน ยังน่าห่วง
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ส่วนสถานการณ์โลกพบผู้ป่วยสะสม 6,263,901 คน อาการหนัก 53,407 คน รักษาหายแล้ว 2,846,119 คน และเสียชีวิตสะสม 373,899 คน โดยสหรัฐอเมริกา ยังป่วยมากสุด 1,837,170 คน เพิ่มขึ้นวันเดียว 20,350 คน ส่วนไทยอยู่อันดับ 78 ของโลก
สำหรับในต่างประเทศ ขณะนี้ เกาหลีใต้ เริ่มบังคับให้ร้านอาหาร ไนต์คลับ บาร์ และยิมในร่มทุกแห่ง เก็บประวัติการใช้บริการของลูกค้าผ่านการใช้ระบบ QR Code เพื่อติดตามตัวกรณี COVID-19 ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.นี้ ขณะที่ ประเทศปากีสถาน ก็มีการบังคับใส่หน้ากากในที่สาธารณะ หลังพบผู้ติดเชื้อรายวันมากกว่า 3,000 คน ซึ่งเป็นอัตราสูงที่สุดตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเทศ โดยมีผู้ป่วยสะสมแล้วเกือบ 70,000 คน
ขณะที่ประเทศญี่ปุ่น เตรียมผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์อนุญาตให้ 4 ประเทศเข้าญี่ปุ่นได้ ตั้งแต่เดือน มิ.ย.นี้ ได้แก่ ไทย เวียดนาม ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ