2 เม.ย. 2563 ศบค. แถลงไทยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 104 คน รวมผู้ติดเชื้อสะสม 1,875 คน เสียชีวิตเพิ่ม 3 คน รวมผู้เสียชีวิตสะสม 15 คน รักษาหายสะสม 505 คน อยู่อันดับที่ 36 ของโลก นายกสั่งชะลอเดินทาง 2-15 เม.ย.นี้

2 เม.ย. 2563 Thai PBS รายงานว่านพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าวสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ว่า โดยสถานการณ์โลกถือว่าน่ากังวลมีผู้ติดเชื้อกว่า 940,000 คน เสียชีวิต 47,000 คนส่วนสหรัฐฯ เป็นอันดับ 1 เสียชีวิตแล้ว 5,094 คนโดยไทยในลำดับที่ 36 ของโลก ผู้ป่วยยืนยันเพิ่มวันนี้ 104 คนรวมตัวเลขสะสม 1,875 คน เสียชีวิตเพิ่ม 3 คนรวมเสียชีวิตแล้ว 15 คน รักษาหายแล้ว 505 คน

สำหรับผู้เสียชีวิต 3 คน คือคนที่ 1 เป็นชายอายุ 57 ปี เดินทางกลับจากปากีสถาน ลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ และเดินทางกลับด้วยรถไฟและเสียชีวิตบนรถไฟ มีประวัติโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ต้องกักตัวเจ้าหน้าที่บนรถไฟ 15 คน คนที่ 2 ชายไทยอายุ 77 ปี มีโรคถุงลมโป่งพองและเบาหวาน โดยสัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้านี้ และเสียชีวิต 31 มี.ค.ที่ผ่านมาและคนที่ 3 ชายไทยอายุ 55 ปี ขับรถสาธารณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประวัติเดินทางไปสุรินทร์และพักอาศัยที่บ้าน และกลับ กทม. เริ่มป่วย 18 มี.ค. และเข้ารับการรักษาจนเสียชีวิต 1 เม.ย.

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ส่วนผู้ป่วยเพิ่ม 104 คน แบ่งเป็นสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน หรือเกี่ยวข้องสถานที่ 60 คนคือสนามมวย และสถานบันเทิง ผู้ป่วยอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 30 คน ในจำนวนนี้เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 2 คน และกลุ่มที่ 3 ผลตรวจพบเชื้อ อยู่ระหว่างสอบสวนโรค 8 คน

“กทม.มีแนวโน้มผู้ป่วยลดลง แต่จังหวัดอื่นๆ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงว่าเมื่อใดกราฟ และคงที่หรือเส้นเบนลง”

หากดูตัวเลขที่เพิ่มขึ้นในวันนี้พบว่ามีทั้งหมด 62 จังหวัดและมี 15 จังหวัดที่ยังไม่มีรายงานพบผู้ป่วย ขณะที่ผู้ป่วยในกทม.ลวดลงวันนี้ มีตัวเลขเพิ่ม 32 คน นนทบุรี ภูเก็ต 11 คน สมุทรปราการ 9 คน ทั้งนี้มาจากการออกมาตรการอย่างเข้มข้น แต่ที่สำคัญคือประชาชนร่วมมือหรือไม่

ส่วนในต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ 4 คนเกิดจากสถานบันเทิง สัมผัสผู้ป่วยอาชีพดีเจ ภูเก็ต 42 คน ทำงานในสถานบันเทิง ขับรถสาธารณะ ส่วน จ.ยะลา มีปัจจัยจากพิธีทางศาสนาที่อินโดนีเซีย ร่วมด้วย ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มขึ้น

นายกรัฐมนตรี สั่งชะลอเดินทาง 2-15 เม.ย.นี้

โฆษก ศบค.กล่าวอีกว่า ผู้ป่วยต่างชาติส่วนใหญ่เป็นยุโรป ส่วนคนไทยกลับจากต่างประเทศ เช่น ยุโรป กัมพูชา ญี่ปุ่น ปากีสถาน มาเลเซีย ซึ่งนายกรัฐมนตรี มีมาตรการโดยให้คณะกรรมการ ศบค. ชะลอการเดินทางเข้าประเทศของชาวต่างชาติและคนไทย ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ จะจัดทำข้อมูลแจ้งประชาชนต่อไป

“นายกรัฐมนตรี มีมติจะต้องชะลอการเดินทางของคนต่างชาติและคนไทยตั้งแต่วันนี้จนถึง 15 เม.ย.นี้ให้ชะลอคนต่างประเทศที่จะเข้ามา และคนไทยจะเดินทางในไทยเองยกเว้นที่ขออนุญาตก่อนแล้ว เพราะถ้าไม่ลดก็จะทำให้คนเสียชีวิตเพิ่ม”

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า เป็นภารกิจที่หนักมากตอนนี้คนที่ต้องกักตัวกว่า 2,000 คน ลองถามกรณีที่ทำเนียบรัฐบาล ชีวิตประจำวันเปลี่ยนทั้งที่ยังไม่รู้ว่าป่วยหรือไม่

รอนายกรัฐมนตรีแถลงมาตรการ

โฆษก ศบค.กล่าวว่า ส่วนกรณีคำถามเรื่องยกระดับมาตรการที่มีการระบุว่าจะมีการประกาศเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกจากบ้านตั้งแต่เวลา 22.00-05.00 น. วันนี้ขอให้คอยติดตามทางหน้าจอโทรทัศน์ นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงประชาชน และเคยพูดไว้แล้วจะมีมาตรการเบาไปหาหนัก รอเวลาประกาศอีกครั้ง

“ก่อนหน้านี้เราเคยพูดไว้แล้วว่าจะเริ่มมาตรการจากเบาไปหาหนักตั้งแต่ต้น ซึ่งนายกรัฐมนตรี จะประกาศขอความร่วมมือประชาชนด้วยตัวเอง”

นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึงกรณีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญ และเห็นภาพแพทย์ใส่ชุดกันฝนในห้องผ่าตัดว่าจริงหรือไม่ ซึ่ง สธ.ได้ชี้แจงว่าวางแผนมาโดยตลอด ขณะนี้แพทย์ต้องใช้หน้ากาก N95 โดยตั้งตัวเลขใช้วันละ 60,000 ชิ้น แต่ผู้ผลิตส่งของน้อยลง เพราะอาจต้องกระจายไปยังที่อื่นด้วย

ขณะนี้มีคำสั่งซื้อไปยังจีน 1 ล้านชิ้น และส่งมาบางส่วนแล้ว ส่วนเรื่องประเด็นยามีในสต็อก 50,000 กว่าเม็ด สั่งจากญี่ปุ่นและนำเข้าแล้ว 40,000 เม็ด และสั่งจากจีน 12 เม.ย. 100,000 เม็ด เพื่อให้ประชาชนมั่นใจ