เสนอโครงสร้าง NGV ใหม่ 60-80% ของราคาดีเซล จูงใจให้คนใช้มากขึ้น

กองบรรณาธิการ TCIJ 3 พ.ค. 2563 | อ่านแล้ว 2257 ครั้ง

เสนอโครงสร้าง NGV ใหม่ 60-80% ของราคาดีเซล จูงใจให้คนใช้มากขึ้น

ซีอีโอ ปตท. เสนอโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ให้มีสัดส่วนร้อยละ 60-80% ของราคาน้ำมันดีเซล เพื่อจูงใจให้คนหันมาใช้เป็นทางเลือกแทนดีเซล และราคาปรับขึ้นลงได้ตามราคาน้ำมัน พร้อมชงให้ยกเลิกน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 แก๊สโซฮอล์ 91 E10 และดีเซล B20 เพื่อลดชนิดน้ำมันที่มีมากเกินไปในปัจจุบันและเป็นต้นทุนของผู้ค้า | ที่มาภาพประกอบ: ปตท.

Energy News Center รายงานเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2563 ว่านายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท.ได้เสนอแนวคิดต่ออธิบดีกรมธุรกิจพลังงานในการปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ให้อ้างอิงราคาน้ำมัน โดยหากต้องการให้ NGV เป็นเชื้อเพลิงทางเลือกที่แข่งกับดีเซล ก็ควรจะให้มีราคาที่ต่ำกว่า คืดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 60-80% ของราคาดีเซล และให้มีการปรับขึ้นหรือลงได้ตามราคาต้นทุนน้ำมันดีเซล จากปัจจุบันที่ราคา NGV มีการกำหนดตามต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติ ที่สะท้อนต้นทุนราคาน้ำมันย้อนหลัง 6-12 เดือน ทำให้เมื่อราคาน้ำมันลดลง แต่ราคา NGV ยังไม่ได้ปรับลดลงตาม

อย่างไรก็ตาม โครงสร้างราคา NGV ดังกล่าว ทางกระทรวงคมนาคมและผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะจะต้องเห็นชอบด้วย โดยในช่วงที่ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น และส่งผลให้ NGV ปรับราคาขึ้นตาม จะต้องมีกลไกในการปรับราคาค่าโดยสารให้สะท้อนต้นทุนที่เป็นจริงด้วย เพื่อให้ทุกฝ่ายดำเนินธุรกิจอยู่ร่วมกันได้ ทั้งนี้หากรัฐใช้โครงสร้างราคา NGV ตามที่เสนอโดยอิงราคาน้ำมัน ราคา NGV ในปัจจุบันจะปรับลดลงได้อีก ในขณะที่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยหรือกลุ่มที่รัฐต้องการช่วยเหลือเป็นการเฉพาะ ก็ให้ดำเนินการผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

นายชาญศิลป์ กล่าวว่า การเสนอปรับโครงสร้างราคา NGV เพื่อให้เป็นเชื้อเพลิงทางเลือกที่แข่งขันได้กับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซล หรือเบนซิน ก็เพราะ NGV เป็นเชื้อเพลิงที่สะอาด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เมื่อเทียบกับน้ำมัน โดยรัฐต้องส่งเสริมให้มีการใช้ NGV มากขึ้น และมีผู้ประกอบการเข้าสู่ธุรกิจนี้มากขึ้นและแข่งขันกันเช่นเดียวกับธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน

นอกจากนี้ยังเสนอให้รัฐพิจารณาลดชนิดน้ำมันเชื้อเพลิงที่จำหน่ายในปั๊มซึ่งปัจจุบันมีมากถึง 8-9 ชนิด และเป็นต้นทุนของผู้ประกอบการในการลงทุนถังเก็บและตู้หัวจ่าย โดย กลุ่มเบนซินควรเหลือเพียงน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 และแก๊สโซฮอล์ 95 E10 โดยยกเลิก E85 และแก๊สโซฮอล์ 91 E10 ส่วนดีเซลควรยกเลิก B20 และเหลือเพียงดีเซล B10 และดีเซลเกรดพรีเมียม ซึ่งจะช่วยลดภาระต้นทุนให้ผู้ค้าลงได้

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: