รัฐบาลเวียดนามแถลงสถานการณ์การระบาดระลอกสองของไวรัส COVID-10 พบว่าการแพร่เชื้อเร็วกว่าครั้งแรกถึง 3 เท่า ซึ่งทั้งหมดมีความเกี่ยวโยงกับโรงพยาบาลในเมืองดานัง ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรอบใหม่นี้ที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา พุ่งไปอยู่ที่ 205 คน และเสียชีวิต 6 คน ส่วนยอดติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 652 คน และปัจจุบันทางการเวียดนามสั่งกักกันประชาชนมากกว่า 133,000 คน ทั้งในโรงพยาบาล พื้นที่กักกันของรัฐและในบ้านของตนเอง

การระบาดดังกล่าวเริ่มต้นมาจากเมืองดานังทำให้เวียดนามที่มีประชากรราว 93 ล้านคน กำลังเร่งตรวจหาเชื้อประชากรในดานังราว 1.1 ล้านคน และมีรายงานว่านับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม มีคนเวียดนามมากกว่า 1.4 ล้านคนที่ไปเที่ยวที่เมืองดานัง และเดินทางกลับบ้านเมืองของตนเองไปแล้ว และมีคนราว 42,000 คนที่ไปเยือนโรงพยาบาลสามแห่งที่พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกมากที่สุด นอกจากนี้รัฐบาลเวียดนามยังได้สั่งเฝ้าระวังโรงงาน 4 แห่งในหลายนิคมอุตสาหกรรมที่พบผู้ติดเชื้อ โดยทั้ง 4 โรงงานรวมกันมีพนักงานราว 3,700 คน

อย่างไรก็ตามที่มาของการระบาดรอบนี้ยังไม่ชัดเจน แม้จำนวนผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ที่เมืองดานัง แต่เชื้อได้แพร่ไปอย่างน้อย 10 พื้นที่นอกเมืองดานังแล้ว เช่นที่กรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ เป็นต้น ขณะที่รัฐบาลยืนยันว่าไม่มีแผนที่จะล็อกดาวน์พื้นที่เป็นวงกว้าง แต่จะใช้มาตรการกักกันโรคอย่างเข้มงวดกับพื้นที่ที่พิจารณาว่าเป็นศูนย์กลางการระบาดเท่านั้น 

“เราจะดำเนินมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางการระบาดของเชื้อไวรัสเท่านั้น จะไม่ล็อกดาวน์เป็นวงกว้างหากมีการติดเชื้อเกิดขึ้นในหมู่บ้าน เราจะล็อกดาวน์ที่หมู่บ้านนั้นเพียงเท่านั้น ไม่ใช่ทั้งอำเภอหรือทั้งจังหวัด” โฆษกรัฐบาลกล่าว

ที่มาข่าวและภาพประกอบ: VN Express, 3/8/2020