4 พ.ค. 2563 ศบค. แถลงไทยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 18 คน รวมผู้ติดเชื้อสะสม 2,987 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต รวมผู้เสียชีวิตสะสม 54 คน รักษาหาย 1 คน รวมรักษาหายสะสม 2,740 คน สธ.สั่งตรวจซ้ำกลุ่มเสี่ยง 40 คน ที่จ.ยะลา เนื่องจากผลตรวจยังขัดแย้งกัน
4 พ.ค. 2563 Thai PBS รายงานว่า นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ว่าไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 18 คน อยู่ในศูนย์กักกันสะเดา จ.สงขลา ผู้ติดเชื้อสะสม 2,987 คน ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม เสียชีวิตสะสม 54 คน หายป่วยแล้ว 2,740 คน รักษาตัวใน รพ. 193 คน
ผู้ติดเชื้อใหม่ในวันนี้ เป็นผู้ต้องกักต่างด้าวทั้งหมด เป็นหญิง 17 คน ชาย 1 คน ในศูนย์กักกันฯ สงขลา ก่อนหน้านี้พบไปแล้ว 42 คน รวม 60 คน
“กลุ่มที่ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อใน 28 วัน เพิ่ม 2 จังหวัด คือ สระแก้ว อุบลราชธานี รวมทั้งหมด 34 จังหวัด ส่วนกลุ่มไม่มีรายงานผู้ป่วยมาก่อนมี 9 จังหวัด”
จังหวัดยะลาพบผู้ป่วยคนแรก 16 มี.ค.จากการร่วมพิธีทางศาสนาที่มาเลเซีย จากนั้นมีกลุ่มผู้สัมผัสทำให้ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในเดือนเม.ย. โดยมีการค้นหาเชิงรุกตั้งแต่ 21 เม.ย.-3 พ.ค.ที่ผ่านมา จนพบติดเชื้อรวม 126 คน
จังหวัดยะลา ตรวจ 3,277 คน พบเชื้อ 20 คน เมื่อตรวจสอบพบ 671 คนเชื่อมโยงกลุ่มที่ติดเชื้อก่อนหน้านี้ และส่งตรวจหาเชื้อ 222 คน พบติดเชื้อ 6 คน จากนั้นตรวจเพิ่มกลุ่มใหญ่ที่เกี่ยวข้อง 311 คน พบเชื้อ 40 คน
“การตรวจพบ 40 คน จากผลการกระจายศูนย์แล็บทั่วประเทศ แต่ชุดข้อมูลที่ทางศูนย์ยะลาทำออกมายังไม่เป็นทางการ จึงมีการตรวจสอบกับศูนย์กรมวิทย์ฯ ที่ จ.สงขลา ซึ่งยืนยันผลว่าไม่พบเชื้อทั้ง 40 คน เมื่อผลตรงกันข้ามกัน ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เห็นควรให้ตรวจเพิ่มที่ส่วนกลาง หรือแล็บกรมวิทย์ฯ ที่กรุงเทพฯ วันนี้ยังไม่ยืนยันผล จนกว่าจะทวนสอบทุกขั้นตอน แต่ยืนยันไม่ปกปิดข้อมูลแน่นอน”
ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.-1 พ.ค. ไทยตรวจ COVID-19 แล้ว 227,860 ตัวอย่าง พบว่าช่วงหลังตรวจจำนวนมาก แต่พบผู้ติดเชื้อน้อยลง เพราะมีมาตรการป้องกันที่เข้มข้น
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ทั่วโลกติดเชื้อ 3.5 ล้านคน เสียชีวิต 2.4 แสนคน อาการหนัก 50,000 คน โดยสหรัฐฯ เป็นอันดับ 1 ติดเชื้อสะสม 1.18 ล้านคน เสียชีวิต 6.8 หมื่นคน
กลุ่มประเทศในเอเชีย ปากีสถานติดเชื้อเพิ่ม 981 คน ติดเชื้อสะสม 20,084 คน เสียชีวิต 457 คน สิงคโปร์ติดเชื้อเพิ่ม 657 คน ติดเชื้อสะสม 18,205 คน มาเลเซียติดเชื้อเพิ่ม 122 คน ติดเชื้อสะสม 6,298 คน
“ในวันนี้มีคนไทยจากมัลดีฟส์ 131 คน และฮ่องกง 162 คน ส่วนพรุ่งนี้ คนไทยจากฝรั่งเศส 16 คน และอินเดีย 220 คน เดินทางกลับไทย และเข้ากักตัวในสถานที่ที่รัฐกำหนด”
ส่วนการเดินทางเข้าไทยผ่านจุดผ่านแดนทางบก ตั้งแต่ 18 เม.ย.-3 พ.ค.ที่ผ่านมา สะสม 7,284 คน โดยเข้ากักตัวในสถานที่ที่รัฐกำหนด
สำหรับการกระทำผิดชุมนุมมั่วสุม ถูกดำเนินคดี 129 คน ส่วนใหญ่ดื่มสุรา 60 % เล่นการพนัน 21 % ฝ่าฝืนออกนอกเคหสถาน 690 คน ตักเตือน 24 คน ดำเนินคดี 666 คน
เมื่อถามว่า สถานเสริมความงามเปิดได้หรือไม่นั้น นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ยืนยันว่าตามข้อกำหนดฉบับที่ 5 (6) คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ต้องปิด เพราะมีความเสี่ยงในการแพร่โรค เนื่องจากต้องใช้เวลาทำกิจกรรมนานและมีเหตุจำเป็นต้องเปิดค่อนข้างน้อย
“กรณีที่ประชาชนไปซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวนมาก จนเกิดความแออัดนั้น ขอแสดงความห่วงใย เพราะเพิ่งเริ่มมาตรการผ่อนปรน โดยขอให้ความร่วมมือเว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อย ๆ และจำกัดจำนวนคนลดแออัด”
นพ.ทวีศิลป์กล่าวด้วยว่า ชุดข้อมูลและสถิติต่าง ๆ จะถูกรวบรวมให้สอดคล้องมาตรการผ่อนปรน หากประสบความสำเร็จ คือ ตัวเลขติดเชื้อเท่าเดิม หรือลดลง จะสู่มาตรการผ่อนปรนระยะ 2 แต่หากตัวเลขติดเชื้อเพิ่มขึ้นจะต้องทบทวนมาตรการทั้งหมด
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ