ศูนย์ข้อมูล COVID-19 สรุป Timeline กรณีพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในเรือนจำ เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2563 ซึ่งเป็นการพบผู้ติดเชื้อในประเทศครั้งแรก ในรอบ 101 วัน
4 ก.ย. 2563 เพจศูนย์ข้อมูล COVID-19 จัดทำ infographic สรุป Timeline กรณีพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในเรือนจำ เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2563 ซึ่งเป็นการพบผู้ติดเชื้อในประเทศครั้งแรก ในรอบ 101 วัน ดังนี้
• ผู้ติดเชื้อ เป็นชาย อายุ 37 ปี (ผู้ต้องขังเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด)
• ตรวจพบระหว่างแยกกักกัน “ผู้ต้องขังแรกรับ” (ก่อนแยกแดน)
• เป็นการตรวจปกติประจำสัปดาดห์เมื่อมีผู้ต้องขังใหม่ และมีมาตรการแยกกักผู้ต้องขังใหม่ 14 วันอยู่แล้ว
• อยู่ที่เรือนจำทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง (เป็นคดีเก่า ฟังคำตัดสิน 26 ส.ค. 2563 รับโทษจำคุก 2 ปี)
• 29 ส.ค. 2563 มีอาการเสมหะ
• ซักประวัติย้อนหลัง พบว่า อาศัยอยู่กับครอบครัวที่คอนโด บ้านสวนธน พุทธบูชา บางมด
• มีคนในครอบครัว เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 5 คน เก็บตัวอย่างส่งตรวจและแยกกักตัวแล้ว
• มีอีก 2 คนในครอบครัวไปต่างจังหวัด (ปริมณฑล) หากตามตัวพบแล้วจะเก็บตัวอย่างส่งตรวจและกักตัวต่อไป
• ผู้ติดเชื้อทำงานเป็นดีเจ อยู่ที่พระราม 3 และพระราม 5 และคาเฟ่ที่ถนนข้าวสาร
ทั้งนี้จากการสำรวจผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำที่รพ.ราชทัณฑ์และเรือนจำพิเศษ มีจำนวน 589 ราย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 78 ราย เสี่ยงต่ำ 511 ราย (ตามตาราง)
ด้าน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ รายงานว่าศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 4 คน เป็นชาวไทยที่เดินทางมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา 1 ราย และสิงคโปร์ 1 ราย
และเป็นชาวไทยเดินทางมาจากประเทศซาอุดิอาระเบีย เคยมีประวัติติดเชื้อและเข้ารับการรักษาในต่างประเทศมาก่อน 1 ราย รายสุดท้ายเป็นติดเชื้อในประเทศ 1 ราย เป็นกลุ่มอาชีพเสี่ยง และเข้าสู่ระบบกักกันก่อนเข้าสู่แดนปกติในเรือนจำ ทั้งหมดอยู่ในสถานการณ์ที่กักกัน และโรงพยาบาลในกรุงเทพ โดยไม่มีอาการป่วย 3 ราย และมีอาการป่วย 1 ราย
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,431 คน จำนวนผู้ป่วยรักษาหายแล้วอยู่ที่ 3,277 คน และยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 96 คน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตสะสมยังคงอยู่ที่ 58 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม
สธ.เร่งตรวจหาเชื้อผู้สัมผัสนักโทษชาย ยังไม่พบเชื้อ-รอผลเพื่อนทำงานที่เดียวกัน
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ รายงานเพิ่มเติมว่า
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่าทีมสอบสวนโรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม และสำนักอนามัย กทม. กระทรวงมหาดไทย รายงานสรุปผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) กรณีผู้ต้องขังชายที่อยูระหว่างกักกันก่อนเข้าแดนปกติในเรือนจำ ในวันนี้ (4 ก.ย.63) เกี่ยวกับผู้สัมผัสดังนี้ 1.ที่คอนโดมีเนียมที่พักอาศัย มีจำนวนผู้สัมผัส 6 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้ง 6 คน ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ ไม่พบเชื้อ 5 ราย อีก 1 ราย เป็นแม่ของภรรยา รอตรวจวันนี้ (4 ก.ย.) ซึ่งทั้งหมดมีมาตรการแยกกักกันและติดตาม 14 วัน 2.ที่ร้านอาหาร 3 วัน 2 คืน สาขาพระราม 3 มีจำนวนผู้สัมผัส 1 คน คือเพื่อนของผู้ติดเชื้อ ถือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง อยู่ระหว่างการเก็บตัวอย่างส่งตรวจ และมีมาตรการค้นหาผู้ป่วยแลัสัมผัสเพิ่มเติม พร้อมแยกกักกันและติดตาม 14 วัน
3.ที่ศาลอาญา มีจำนวนผู้สัมผัส 492 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 14 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 478 คน ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 10 คน และกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 146 คน เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ไม่พบเชื้อ มีมาตรการสำหรับกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงให้กักตัวอยู่ที่บ้าน 14 วัน ส่วนกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ประสานศูนย์ติดตามเฝ้าระวังอาการ 14 วัน
4.โรงพยาบาลราชทัณฑ์ มีผู้สัมผัส 6 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำทั้งหมด มีมาตรการติดตามเฝ้าระวังอาการ 14 วัน 5.ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง มีจำนวนผู้สัมผัส 40 คน ซึ่งแบ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 13 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 27 คน ได้นัดหมายเก็บตัวอย่างวันที่ 8 ก.ย. และ 16 ก.ย. มีมาตรการสำหรับกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงควรมีการแยกกักกัน เพื่อลดโอกาสการแพร่กระจายของเชื้อ สำหรับกลุ่มเสี่ยง สัมภาษณ์เพิ่มอีก 34 คน และติดตามเฝ้าระวังอาการ 14 วัน ขณะที่กลุ่มผู้ต้องขังที่นอนห้องพักเดียวกัน มีผู้สัมผัส 36 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้ง 36 คน การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ผลไม่พบเชื้อทุกราย และนัดหมายเก็บตัวอย่างวันที่ 8 ก.ย.63 และ 16 ก.ย.63 มาตรการควรแยกกักกันจากผู้ต้องขังรายอื่นๆ
6.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มีจำนวนผู้สัมผัส 8 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้ง 8 คน มีการตรวจทางห้องปฏิบัติการทั้ง 8 คน เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผล มาตรการควรแยกกักกันจากผู้ต้องขังแรกรับรายอื่นๆ
รวมจำนวนผู้สัมผัส 589 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 78 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 511 คน
นอกจากนี้ อยู่ระหว่างค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติมในที่ทำงานร้านอาหาร 3 วัน 2 คืน สาขาพระราม 5 และร้าน First Cafe ที่ถนนข้าวสาร
นพ.โสภณ กล่าวว่า Timeline ของผู้ต้องขังชายรายนี้ ย้อนหลังไป 2 สัปดาห์ คือตั้งแต่ 15 ส.ค.ซึ่งอยู่ที่บ้าน เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ได้เดินทางไปทำงานเป็นดีเจ ที่ร้านอาหาร 3 วัน 2 คืนสาขาพระราม 5 เวลา 22.00-01.00 น. ในวันที่ 17 ส.ค.เดินทางไปทำงานเป็นดีเจ ที่ร้านอาหาร 3 วัน 2 คืน สาขาพระราม 3 เวลา 24.00-02.00 น. วันที่ 18 ส.ค.เดินทางไปทำงานที่ร้าน First Cafe ที่ถนนข้าวสาร เวลา 21.00-24.00น. วันที่ 20 ส.ค.เดินทางไปเป็นดีเจที่ร้านอาหาร 3วัน2 คืนสาขาพระราม 3 เวลา 24.00-02.00 น. วันที่ 21 ส.ค.เดินทางไปทำงานดีเจที่ร้านอาหาร 3 วัน 2 คืน สาขาพระราม 5 เวลา 22.00-01.00น. วันที่ 22,24 ส.ค.เดินทางไปเป็นดีเจที่ร้านอาหาร 3วัน2 คืนสาขาพระราม 3 เวลา 24.00-02.00 น. จะเห็นว่าเป็นการเดินทางไปทำงานใช้เวลาสั้นๆ
ในวันที 26 ส.ค.เดินทางไปศาลรัชดา 9.00 น.เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวพบพ่อของผู้ป่วยและผู้ตัองหา 2 คน ต่อมา 10.30 น.ตัดสินคดี เจ้าหน้าที่ 2 คนใส่กุญแจมือพาผู้ป่วยและผู้ต้องหาอีก 2 คน ลงลิฟต์ไปห้องฝากขังใต้ศาลรัชดา อยู่ร่วมกับผู้ต้องขัง 16 คนซึ่งได้รับการตรวจไม่พบชื้อ เวลา 18.00 น.มีรถมารับผู้ป่วยและผู้ต้องขังรวม 16 คน ไปที่ทัณฑสถาน 19.00 น.ถึงเรือนจำ มีการตรวจอาวุธ ตรวจวัดไข้คัดกรองโควิดก่อนเข้าสถานที่กักกัน 14 วัน
"จะเห็นได้ว่า ภาพรวมสามารถระบุผู้มีความเสี่ยงสูงครบ ส่วนที่เสี่ยงต่ำรองลงมาก็อยู่ระหว่างการติดตาม ผลตรวจของผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดในขณะนี้ ที่ตรวจไปแล้วทั้งหมดเกือบ 200 ราย ก็ยังไม่พบผู้ใดติดเชื้อ"นพ.โสภณ กล่าว
ด้านนพ.สฤษดิ์เดช เจริญไชย รองนายแพทย์สาธารณสุขประจำจังหวัด (สสจ.) นนทุบรี กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งว่ามีผู้ป่วยยืนยันมาทำงานในร้านอาหารที่อยู่ในจ.นนทบุรี เราได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ซึ่งพบว่าร้านดังกล่าวได้ปิดตัวเองแล้ว ไม่มีผู้รับบริการ โดยดีเจมาทำงาน 2 วัน ซึ่งอยู่ในโซนแยกเฉพาะ และสภาพร้านแบ่งเป็น 2 โซนโซนในเป็นผับ และโซนด้านนอกเป็นร้านอาหารมีลมพัดผ่านซึ่งดีเจทำงานโซนด้านนอก และตรวจสอบพบพนักงานของร้านที่มีความเสี่ยงสัมผัส ประมาณ 20 คน และผู้รับบริการเสี่ยงทางเดินประมาณ 3 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีได้ออกคำสั่งให้ปิดร้าน 3 วัน 2 คืน พระราม 5 เป็นเวลา 3 วัน (4-6 ก.ย.) และมีการทำความสะอาด และเช้าวันนี้ มีการจัดทีมที่ประกอบด้วยกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานท้องถิ่นรวมถึง อสม.เข้าไปลงพื้นที่ตรวจสอบและทำความสะอาด รวมถึงเรากำลังติดตามตัวพนักงานที่มีความเสี่ยงสูงรวมถึงผู้ใช้บริการ จำนวน 23 คนให้มากักตัวที่โรงพยาบาลบางกรวย 2 ซึ่งตามตัวได้แล้ว 16 คนรอผลตรวจ เหลืออีก 7 คนที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯกำลังเร่งติดตามตัว
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ