กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ (Ministry of Trade and Industry; MTI) เผยผลประเมินด้านเศรษฐกิจเมื่อปีที่แล้ว พบว่าขยายตัวเพียง 0.7% ซึ่งลดลงอย่างมากจากการเติบโต 3.1% เมื่อปี 2561 นับเป็นการขยายตัวช้าสุดนับตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา โดยที่ผ่านมาเศรษฐกิจสิงคโปร์พึ่งพาการส่งออกเป็นหลักแต่ต้องเจอกับความท้าทายจากการทำสงครามการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐอเมริกา รวมถึงความซบเซาในภาคอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายต้องทบทวนตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวตลอดทั้งปีถึง 3 ครั้งในปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ภาคการผลิต ที่เป็นสัดส่วนราว 1 ใน 5 ของเศรษฐกิจสิงคโปร์ ยังคงซบเซาเช่นเดียวกัน โดยในไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 ธุรกิจนี้ยังหดตัวอยู่เป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกัน ติดลบถึง 2.1% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ที่ติดลบเพียง 0.9% โดยเป็นผลจากการผลิตที่ลดลงในด้านอิเล็กทรอนิคส์ และวิศวกรรมการขนส่ง ทำให้ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2562 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวเพียง 0.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 3 ที่ 0.7%
อย่างไรก็ตามในช่วงวันปีใหม่ นายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง เผยกับประชาชนว่า ปีที่ผ่านมาสิงคโปร์ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ซึ่งแม้จะสามารถหลีกเลี่ยงจากภาวะถดถอยได้ และยังเติบโตอยู่ แต่ก็เป็นไปในระดับที่ไม่น่าพึงพอใจนัก ซึ่งงบประมาณใหม่ที่จะออกมา รัฐบาลจะเน้นรวมถึงมาตรการต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้ภาคธุรกิจสามารถเพิ่มผลผลิต และคงการจ้างงานไว้ รวมถึงสามารถช่วยครัวเรือนรับมือกับค่าครองชีพต่างๆ ด้วย
ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Channel News Asia, 2/1/2020
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ