หลังเกิดปัญหาโรคเหี่ยวในกล้วยหินในพื้นที่ จ.ยะลา ทำให้ในข่วงระยะเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา ทำให้กล้วยหินตายไปเกือบทั้งหมดนั้น ล่าสุดศูนย์วิจัยพืชสวนยะลา เผยผลสำเร็จแก้ปัญหาโรคเหี่ยวในกล้วยหินได้เป็นที่แรก | ที่มาภาพ: สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ รายงานเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2563 ว่าจากปัญหาของโรคเหี่ยวในกล้วยหินของพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ จ.ยะลา ที่มีการปลูกกล้วยหินในพื้นที่โดยเฉพาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งทำให้ในข่วงระยะเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา มีการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียทำให้กล้วยหินตายไปเกือบทั้งหมดนั้น
ล่าสุด ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนจังหวัดยะลา อ.ธารโต จ.ยะลา นายศุกร์ เก็บไว้ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยพืชสวนจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตรได้มีการคิดค้นนำเอาสารสกัดชีวภาพชีวภัณฑ์มาจัดการกับเชื้อโรคตัวนี้ ซึ่งสภาพแปลงกล้วยที่นี่เองเมื่อ 5 ปีแล้ว ก็มีการระบาดหนักของโรคเหี่ยวในกล้วยหินด้วยเช่นกัน จนกระทั่งเรามีวิธีการจัดการและให้ผลผลิตลูกใหญ่ที่ดีพอ
"...ถามว่าทำไมเกษตรกรหลายคนบอกว่ามีการนำเอาไปใช้แล้วแต่ไม่ได้ผล บางคนก็บอกว่ามาเอาเชื้อที่นี่แล้วแต่ไม่ได้ผล อยากนำเรียนว่า การจัดการทำอะไรก็แล้วแต่มันต้องทำให้ครบถ้วน ไม่ใช่ว่าต้นที่เราเห็นเป็นโรคอยู่แล้ว เราก็ไม่ได้ไปทำอะไรเลย ไปถึงก็เอาสารสกัดชีวภัณฑ์ไปราดที่โคนเพียงแค่นั้นไม่ได้ผลแน่นอน คือการเริ่มต้นมันก็ต้องเริ่มต้นตั้งแต่การเตรียมดิน การเตรียมหลุม ต้องจัดการตั้งแต่เริ่มต้น ทำให้ครบถ้วนตามกระบวนการวิชาการที่กรมวิชาการเกษตรแนะนำ เราไปรักษาที่ปลายเหตุ ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง..."
ขณะที่ นางสาวพรพยุง คงสุวรรณ นักวิชาการเกษตร ชำนาญการ ศูนย์วิจัยพืชสวนจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตร โดยสถาบันวิจัยพืชสวนและศูนย์วิจัยพืชสวนยะลา ได้นำผลงานวิจัยของสำนักอารักขาพืช ซึ่งเป็นงานวิจัยมาแล้ว เอามาใช้ประโยชน์บวกกับเทคโนโลยีการผลิตกล้วย วิธีการคือจะเริ่มบีเอสเดือนละ 1 ครั้ง ในอัตรา 25 กรัมต่อน้ำ 4 ลิตร รดเดือนละ 1 ครั้ง จากนั้นก็จะดูแลรักษา จะมีการตัดแต่งทางใบ ให้ปุ๋ยปกติ แต่สิ่งที่สำคัญในเรื่องของโรคนั้น เนื่องจากว่าอยู่ในพื้นที่ที่เป็นแหล่งของโรค เราไม่แน่ใจที่อื่นเป็นโรคไหม ดังนั้นพี่น้องเกษตรกรจะต้องมีการล้างมีดก่อนตัดแต่งโดยผสมน้ำลงไปแล้วก็ปรับ อันที่ 2 คือเรื่องของการดูแลพื้นที่ ก็ต้องตัดหญ้าให้สะอาดไม่ให้รก กล้วยสังเกตเวลาตัดออกจะไม่เหมือนเมื่อก่อน ถ้าทำแบบนั้นจะทำให้เกิดการสะสมของโรค เพราะว่าชาวบ้านเรายังปลูกวิธีแบบเดิม ๆ ก็ตัดกล้วยเสร็จก็เอาลงที่โคน มันก็จะเป็นแหล่งสะสมของโรคเหมือนเดิม ดังนั้นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการปลูกกล้วยหิน
"...อย่างแปลงแห่งนี้ เดิมทีเกิดโรคระบาดอย่างรุนแรง ต้องเอาเทคนิคการผลิตกล้วยเข้ามาจัดการสวน ใช้ชีวภัณฑ์ของกรมวิชาการเกษตร เข้ามาในการลดและป้องกันมาเป็นระยะเวลา 3 ปีแล้ว ผลออกมาคือกล้วยยังไม่เป็นโรคเลย ผลออกมาคือจากที่เราเก็บข้อมูลแล้วก็คือถามว่าเก็บข้อมูลยังไงบ้าง คือเราส่งดินวิเคราะห์ทุกเดือน ก็ปรากฏว่าตอนนี้กล้วยทั้งหมดในแปลง 100% ไม่เป็นโรคแล้ว ทั้ง ๆ ที่เดิมและเป็นพื้นที่ที่โรคระบาดรุนแรง โดยหากเกษตรกรที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคเหี่ยวในกล้วยหิน สามารถขอคำปรึกษาได้ที่ ศูนย์วิจัยพืชสวนยะลา ตั้งอยู่ที่อำเภอธารโต จังหวัดยะลา..."
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ