กำแพงอันสูงชันแน่นหนาที่ก่อสร้างขึ้นจากมวลของอากาศ เรียงแถวรายล้อมปิดรอบอาคารโรงเรียนล่องหน แบ่งแยกกีดกันระหว่างบุคคลภายนอกและนักเรียนภายในโรงเรียน เพื่อความปลอดภัยของบุคคลภายใน และเป็นสัญลักษณ์แห่งอาณาเขตของโรงเรียนล่องหน โรงเรียนที่อยู่ใกล้บ้านนักเรียนทุกคน
ในห้องเรียนวิชาศิลปะของโรงเรียนล่องหน คุณครูผู้มีน้ำหนัก 50 กิโลกรัม ขอจับกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 4 คน ด้วยวิธีการจับฉลากสุ่มเลขที่ แล้วหันโต๊ะเรียนเข้าหากันเป็นกลุ่มแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส
นักเรียนคนหนึ่งกลายเป็นส่วนเกินของห้อง คุณครูของให้เขาไปต่อเติมโต๊ะตรงส่วนท้ายของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพื่อนๆ ในห้องต่างส่งเสียงร้องเรียกอยากได้เขามาร่วมโต๊ะ จนเกิดสงครามวาจาการยื้อแย่งขนาดย่อมๆ คุณครูขอให้เขาขยับโต๊ะไปเข้าร่วมกลุ่มที่ใกล้ที่สุด ‘กลุ่มโต๊ะหลังห้อง’ เพื่อนๆ ในกลุ่มต่างยินดีที่เขามาเข้าร่วมในกลุ่ม แม้การมาของเขาจะทำให้โต๊ะรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ไม่เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสอีกต่อไป แต่เพราะเพื่อนๆ ต่างรู้ ว่ามีเพียงเขาคนเดียวในห้องที่มี ‘กล่องพิเศษ’
เพื่อนๆ ทุกคนในห้อง ต่างอยากหยิบยืมสิ่งของในกล่องพิเศษของเขา เพราะทุกคนมั่นใจ ว่าถ้าใช้สิ่งของในกล่องพิเศษทำงานตามคุณครูสั่งในวิชาศิลปะ ตนเองจะได้คะแนนเต็ม กล่องพิเศษที่ว่า บรรจุความดีอัดแท่งคุณภาพสูง ทำให้ระบายลงบนกระดาษได้อย่างมั่นคง หนักแน่น แต่ราคานั้นก็แพงเกินกว่าที่นักเรียนธรรมดาๆ คนหนึ่งควรมีไว้ครอบครอง แพงเกินกว่าความจำเป็นของเด็กนักเรียน ผู้ปกครองจึงไม่นิยมซื้อให้ลูกหลานของตนใช้
‘เขา’ หยิบกล่องพิเศษออกจากกระเป๋า วางลงบนโต๊ะอย่างระมัดระวัง เพื่อนๆ ในกลุ่มจดจ้องทุกการเคลื่อนไหว ต่างตาลุกวาวเมื่อเห็นกล่องพิเศษวางอยู่บนโต๊ะเรียนของเขา
คุณครูผู้มีน้ำหนัก 50 กิโลกรัม ขอให้นักเรียนในห้องสร้างสรรค์ผลงาน ‘ความว่าง’ ภายในชั่วโมงเรียน ‘กลุ่มโต๊ะหลังห้อง’ รีบออกปากขอหยิบยืมของในกล่องพิเศษของเขา เขาอนุญาตแก่เพื่อนๆ ในกลุ่ม แม้จะอิดออดไม่เต็มใจเท่าใดนัก โดยมีข้อแม้ว่า ต้องขออนุญาตทุกครั้งที่จะหยิบ เขามีอภิสิทธิ์เต็มขั้นที่จะหยิบคืนจากมือ หากเขาต้องการใช้สิ่งนั้นทันที ทุกคนในกลุ่มที่หยิบยืมไปต้องเรียงกลับใส่กล่องคืนสู่ที่ให้เรียบร้อยดังเดิม และต้องเหลากลับคืนให้คล้ายสภาพเดิมก่อนหยิบยืมไป
เพื่อนๆ ในกลุ่มโต๊ะหลังห้อง รับปากยืนยันที่จะทำตามข้อตกลงของเขา ทุกอย่างดุจะดำเนินไปด้วยดีตามกฎเกณฑ์ข้อตกลงปากเปล่า
เด็กนักเรียนในห้องต่างนั่งทำงานของตนเอง บางคนอยากทำให้เสร็จโดยไว บางคนอยากใช้เวลาอย่างพิถีพิถัน เสียงพูดคุยกันภายในห้องเริ่มดังขึ้น เวลาผ่านไปเพียงชั่วครู่ สมาธิก็หนีหายแตกกระเจิง เด็กนักเรียนเริ่มเล่นกันมากกว่าที่จะตั้งใจทำงาน
“ครืด” เสียงเก้าอี้ถูลากกับพื้น
เด็กนักเรียนคนหนึ่งในกลุ่มโต๊ะหลังห้อง ลุกขึ้นจากเก้าอี้ไปส่งงาน
ห้องเรียนวุ่นวายด้วยเสียงพูดคุยตามลำดับเวลา จากที่นั่งกันอยู่กับที่ ก็เริ่มลุกเดินไปมา จากที่คุยกันภายในกลุ่ม ก็เริ่มตะโกนคุยกันข้ามกลุ่มไปมา
“เธอๆ ขอยืมหน่อยดิ”
เด็กนักเรียนจากกลุ่มอื่นมาขอยืมแท่งความดีไประบายลงบนงานของตนบ้าง ด้วยความวุ่นวาย เด็กนักเรียนจึงหยิบยืมกันอย่างถือวิสาสะ และหยิบยืมกันอย่างละเลยความใส่ใจ จนใช้อย่างปะปนกันไปหมดทั่วห้อง แท่งความดี หากอยู่นอกกล่องก็กลายเป็นเพียงแท่งสีธรรมดาๆ กลืนกลายไปกับของของคนอื่นๆ ที่อยู่ในมือ
เสียงกริ่งหมดชั่วโมงเรียนดังขึ้น นักเรียนในห้องที่เหลือ รีบลุกขึ้นแย่งกันส่งผลงาน จากนั้นทุกคนก็แยกโต๊ะเรียนกันกลับเข้าที่ดังเดิม เป็นโต๊ะเดี่ยวเรียงแถวที่มีระยะห่างรอบตัว ทุกคนต่างเก็บเครื่องเขียน สิ่งของต่างๆ ของตนเข้ากระเป๋า
เด็กนักเรียนที่มีกล่องพิเศษ รีบถามหาสิ่งของของเขาคืน เพราะเขายังได้คืนมาไม่ครบ สิ่งที่ได้คืนมาก็แตกหัก บางอันก็ดูไม่คล้ายของเดิมสักนิด เป็นเพียงสิ่งที่เพื่อนหยิบจับฉกฉวยของผู้อื่นมาสวมรอยส่งคืน แม้จะไล่ถามเพื่อนไปทั่วห้อง ทุกคนก็บอกปัดปฏิเสธ
“เราคืนไปแล้วไง เมื่อกี้นี่เอง”
“ไม่รู้สิ เราไม่เห็น เราไม่ได้ยืมอันนั้นนี่”
“อันนี้ของเราเอง อย่ามั่วสิ”
เด็กนักเรียนที่มีกล่องพิเศษ เก็บกล่องเกือบเปล่าลงกระเป๋า แล้วเขาก็นั่งเงียบไปตลอดทั้งวัน จนกระทั่งเลิกเรียน แต่ก็ไม่มีใครสนใจใส่ใจเขาเป็นพิเศษอีกแล้ว
วันต่อมา เด็กนักเรียนที่มีกล่องพิเศษก็เลิกพกกล่องพิเศษมาที่โรงเรียน เพื่อนๆ ต่างกล่าวหาว่าเขาโกหก เขาเพียงแต่อยากเก็บไว้ใช้เพียงคนเดียว
“ไม่มีน้ำใจ เห็นแก่ตัว”
เพื่อนๆ ต่างเอ่ยเปรยปรายตามลมให้เขาได้ยิน
จู่ๆ เด็กนักเรียนคนหนึ่งก็ลุกขึ้นยืนกลางห้อง เสียงขูดลากของเก้าอี้ชะงักเสียงพูดคุยได้พลัน แล้วเขาก็เอ่ยป่าวประกาศว่า ‘เขามีกล่องพิเศษ’ เขาเองก็มีกล่องพิเศษ เพื่อนๆ มาหยิบยืมที่เขาได้ และไม่ต้องขออนุญาตหรือมีพิธีใดๆ ให้มากความ
‘เด็กนักเรียนที่เคยพกกล่องพิเศษมาโรงเรียน’ ก็เป็นอีกคนที่เดินขอไปหยิบยืมกับเขาบ้าง แต่เขาถูกห้ามไม่ให้ยืม ด้วยเหตุผลว่าตัวเขาเองก็มี
‘เด็กนักเรียนที่เคยพกกล่องพิเศษมาโรงเรียน’ เดินกลับไปยังที่นั่ง ไปยังโต๊ะเรียนของเขา มองสิ่งของที่คล้ายเคยเป็นของเขาในมือของคนอื่น มันกำลังอยู่ในมือเพื่อนๆ ในนามคนอื่น เขาสูญเสียสิ่งของข้างในกล่องพิเศษ กล่องพิเศษกลายเป็นเพียงกล่องเกือบเปล่า กลายเป็นเพียงกล่องธรรมดา ที่จะไม่ได้เดินทางมาที่โรงเรียนพร้อมกับเขาอีกแล้ว
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ