9 พ.ค. 2563 ศบค. แถลงไทยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 4 คน รวมผู้ติดเชื้อสะสม 3,004 คน มีผู้เสียชีวิต 1 คน รวมผู้เสียชีวิตสะสม 56 คน รักษาหาย 3 คน รวมรักษาหายสะสม 2,787 คน
9 พ.ค. 2563 Thai PBS รายงานว่านพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าวสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 4 คน สะสม 3,004 คน เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน รวมสะสม 56 คน หายดีแล้ว 2,787 คน
สำหรับผู้เสียชีวิตเป็นชายไทยอายุ 68 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว เริ่มป่วยด้วยอาการไข้ ปวดกล้ามเนื้อ หายใจลำบาก ยืนยันผลติดเชื้อ 22 มี.ค. ต่อมาอาการแย่ลงพบติดเชื้อในกระแสเลือดและไตวาย เสียชีวิต 9 พ.ค.
ขณะนี้มี 9 จังหวัดที่ไม่เคยมีรายงานผู้ติดเชื้อ ได้แก่ จ.ชัยนาท ตราด สิงห์บุรี อ่างทอง กำแพงเพชร น่าน พิจิตร บึงกาฬ ระนอง ส่วน 44 จังหวัด ไม่มีรายงานผู้ป่วยในช่วง 28 วัน เช่น เพชรบุรี กาญจนบุรี เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ มหาสารคาม อุบลราชธานี ตรัง สุราษฎร์ธานี
ทั่วโลกมีผู้ป่วยสะสมแตะ 4 ล้านคน
สถานการณ์ทั่วโลกมีผู้ป่วยสะสม 4,012,848 คน เสียชีวิต 276,216 คน สหรัฐฯ มากที่สุด ติดเชื้อเพิ่ม 29,162 คน สะสม 1,321,785 คน บราซิลติดเชื้อเพิ่ม 11,121 คน และรัสเซียติดเชื้อเพิ่ม 10,699 คน
ขณะที่สหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากที่สุด 1,687 คน บราซิล 827 คน อังกฤษ 626 คน อิตาลี 243 คน ฝรั่งเศส 243 คน สเปน 229 คน เม็กซิโก 199 คน แคนาดา 161 คน เยอรมนี 118 คน เบลเยียม 106 คน
โฆษก ศบค. กล่าวว่า ในวันที่ 10 พ.ค. จะมีคนไทยเดินทางกลับประเทศ 3 เที่ยวบิน โดยมีคนไทยจากไต้หวัน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ส่วนวันที่ 11 พ.ค. มี 2 เที่ยวบิน เป็นคนไทยจากอินเดีย ญี่ปุ่น วันที่ 12 พ.ค. เป็นคนไทยจาก สหรัฐฯ รัสเซีย ภูฏาน วันที่ 13 พ.ค. เป็นคนไทยจาก ฟิลิปปินส์ อินเดีย วันที่ 14 พ.ค. มี 2 เทียวบิน เป็นคนไหทยจาก เยอรมนี บังกลาเทศ และวันที่ 15 พ.ค. มี 2 เที่ยวบิน เป็นคนไทยจาก สิงคโปร์ บาห์เรน
ขณะที่ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.-8 พ.ค.2563 มีผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและเข้ากักตัวในสถานที่ที่รัฐกำหนดแล้ว 15,069 คน กลับบ้านแล้ว 5,661 คน ในจำนวนนี้พบติดเชื้อสะสม 87 คน
และเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2563 พบการมั่วสุมชุมนุมลดลงเหลือ 58 คน ส่วนใหญ่เล่นการพนัน และยาเสพติด ส่วนการฝ่าฝืนออกนอกเคหสถาน 603 คน ตักเตือน 27 คน ดำเนินคดี 576 คน
ขณะที่การตรวจสอบกิจการที่ได้รับการผ่อนคลาย เมื่อวานนี้ (8 พ.ค.) 16,024 แห่ง พบไม่ปฏิบัติตามมาตรการ 392 คน หรือ 2.45% ลดลงจากเมื่อวันที่ 7 พ.ค.
จ่อทดลองเปิดห้างสรรพสินค้า
โฆษก ศบค. กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมปลดล็อกระยะที่ 2 ว่า ได้กำหนดวันที่ 8-12 พ.ค. จะเป็นช่วงรับฟังความคิดเห็น และประเมินผลระยะที่ 1 ในวันที่ 13 พ.ค. ส่วนในวันที่ 14-15 พ.ค. จะยกร่างข้อกำหนดใหม่สู่ระยะที่ 2 โดยการประชุมเบื้องต้นจะหากลุ่มตัวอย่างพื้นที่ทดลองเปิด เช่น ห้างสรรพสินค้า และประเมินผลวันที่ 16 พ.ค. ก่อนประกาศใช้ 17 พ.ค. โดยต้องประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อไม่ให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
สำหรับการตรวจค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกทำแล้ว 4 จังหวัด ได้แก่ กทม.ตรวจแล้ว 3,581 คน พบติดเชื้อ 1 คน ยะลา ตรวจแล้ว 3,277 คน พบติดเชื้อ 20 คน ภูเก็ต ตรวจแล้ว 2,552 คน ติดเชื้อ 26 คน กระบี่ตรวจแล้ว 477 คน ติดเชื้อ 3 คน
โฆษก ศบค. กล่าวถึงการเปิดให้บริการของตลาดจัตุจักร ว่า ยังขอให้ผู้ใช้บริการและผู้ประกอบการปฏิบัติตามข้อกำหนด ซึ่งรัฐจะเข้าไปกำกับดูแล ตรวจสอบมาตรการหลัก เช่น ทำความสะอาด ล้างมือ เว้นระยะห่าง และยังมีมาตรการเสริมใช้กับบางกิจกรรม เช่น ร้านตัดผม มีการตรวจคัดกรองด้วยการวัดไข้, ให้ช่างตัดผมและผู้ช่วย สวม Face Shield และเสื้อคลุมแขนยาวทุกครั้งที่ให้บริการ, จัดให้มีการระบายอากาศภายในร้านให้ดี และอาจเพิ่มมาตรการใช้แอปพลิเคชันติดตามทางโทรศัพท์เคลื่อนที่มาใช้ หรือใช้มาตรการในการบันทึกข้อมูลและรายงานในบางพื้นที่ด้วย
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ