9 มิ.ย. 2563 ศบค. แถลงไทยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 2 คน พบจากสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ รวมผู้ติดเชื้อสะสม 3,121 คน รวมผู้เสียชีวิตสะสม 58 คน รวมรักษาหายสะสม 2,973 คน ถือเป็นวันที่ 15 ที่ไทยไม่พบผู้ป่วยภายในประเทศ แนะเหลื่อมเวลานั่งกินข้าวรวมกลุ่มลดเสี่ยง
9 มิ.ย. 2563 Thai PBS รายงานว่าพญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ COVID-19 ว่า ไทยพบผู้ป่วยใหม่ 2 คน เป็นผู้ป่วยที่พบใน State Quarantine ส่งผลให้รวมสะสมไทยมีผู้ป่วยแล้ว 3,119 คน และหายป่วยกลับบ้านรวม 2,973 คน รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 90 คน และเสียชีวิตคงที่ 58 คน
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 2 คน เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้า State quarantine ดังนี้ มาจากประเทศซาอุดิอาระเบีย 1 คน อยู่ใน State quarantineโดยเข้ารับการรักษาที่จ.ปัตตานี และมาจากประเทศเนเธอร์แลนด์ 1 คน อยู่ใน State quarantineโดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ตั้งแต่ ก.พ.- 9 มิ.ย. พบผู้ป่วยในสถานกักตัวของรัฐ 184 คน อัตราป่วยตามประเทศต้นทาง ประเทศที่พบมากที่สุด คือ คูเวต ซาอุดิอาระเบีย และอินโดนีเซีย
“กรณีไม่พบผู้ติดเชื้อในไทยนาน 15 วัน ถือว่าปลอดเชื้อหรือไม่ ทางหลักการระบาดวิทยาปกติจะใช้ 2 เท่าของระยะเวลาฟักตัวที่ยาวที่สุดของโรคโดย COVID-19 ระยะเวลาฟักตัว 14 วัน ดังนั้น 2 เท่า คือ 28 วัน หากไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ไปแล้ว 28 วัน จึงถือว่าเป็นการเสี่ยงต่ำที่จะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อซ้ำใหม่”
พญ.พรรณประภา กล่าวว่า หลายประเทศมีการระบาดระลอกใหม่เป็นระลอกที่ 2 เป็นการะบาดแบบกลุ่มและส่วนใหญ่ไม่มีอาการ เช่นกรณีพบผู้ป่วยในสถานกักตัวของรัฐส่วนใหญ่ก็ไม่มีอาการ ดังนั้น จึงต้องเฝ้าระวัง เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อ ต้องสวมหน้ากากอนามย ล้างมือบ่อยๆ รักษาระยะห่างทางสังคม
แนะเหลื่อมเวลา-เลี่ยงกินข้าวกลางวันคนแออัด
พญ.พรรณประภา กล่าวว่า สถานการณ์ผู้ป่วย COVID-19 ทั่วโลก พบผู้ป่วยสะสมแล้ว 7,193,988 คน อาการหนัก 53,797 คน รักษาหายแล้ว 3,535,491คน และเสียชีวิตสะสม 408,628 คน สหรัฐอเมริกา ยังมีผู้ป่วยสะสมมากสุดกว่า 2 ล้านคน รองลงมาคือบราซิล ขณะที่ฝั่งเอเชียผู้ป่วยสะสม อินเดียมากที่สุด ตามมาด้วยปากีสถาน บังกลาเทศ สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ไทยอยู่ที่อันดับ 83
“นอกจากนี้รัฐบาลนิวซีแลนด์ ซึ่งมีมาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดสุดในโลก ไม่ให้คนออกจากบ้าน ให้ออกจากบ้านเมื่อจำเป็น ตอนนี้ประกาศยุติมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม หลังไม่มีผู้ติดเชื้อ และผู้ติดเชื้อคนสุดท้ายรักษาหายแล้ว ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 17 วัน”
พญ.พรรณประภา กล่าวว่า การผ่อนคลาย 3 ระยะแล้ว หน่วยงานภาครัฐและเอกชนเริ่มกลับมาทำงานมากขึ้น ปัญหาที่พบคือ การรับประทานอาหารกลางวัน ที่มีความหนาแน่นของผู้ใช้บริการ ขอให้สวมหน้ากากอนามัย พกแอลกอฮอล์เพื่อล้างมือ และเว้นระยะห่างทางสังคม หรือซื้อกลับมารับประทานภายในที่ทำงาน
“ข้อแนะนำหากเห็นคนเยอะแล้ว อาจซื้อแล้วกลับมาทานที่ทำงาน หรือพกมาทานเองจากที่บ้าน ผู้ประกอบการอาจปรับระยะเวลาในการลงมารับประทาน เป็นเหลื่อมเวลา เช่น 11.00 น. หรือ 11.30 น. 12.30 น. และ 13.00 น. ซึ่งร้านก็ยังเปิดอยู่ ก็จะช่วยลดความหนาแน่นได้”
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ