บรรดานักอนุรักษ์สัตว์ป่าและธรรมชาติ นำโดยองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) และ Fauna & Flora International (FFI) ออกแถลงการณ์เตือนรัฐบาลพม่า หลังพบว่ากระทรวงป่าไม้ แก้ไขกฎหมายเพื่อเปิดช่องให้มีการทำฟาร์มเพาะเสือและตัวนิ่มได้ โดยกลุ่มนักอนุรักษ์กังวลว่าจะไปกระตุ้นให้เกิดความต้องการซื้อมากขึ้นจากจีน ขณะที่รัฐบาลพม่าให้เหตุผลว่าเกิดขึ้นจากความต้องการที่จะลดสัตว์ป่า และลดจำนวนการเพาะพันธุ์สัตว์ที่ผิดกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม WWF ยืนยันชัดเจนว่าวิธีการดังกล่าวจะยิ่งเพิ่มจำนวนการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย และสร้างตลาดที่กระตุ้นความต้องการผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่ามากขึ้น และด้วยความที่พม่าไม่มีศักยภาพที่จะบริหารจัดการการค้า จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดเชื้อโรคจากสัตว์แพร่สู่คน และในกรณีที่แย่ที่สุดอาจซ้ำรอยเหตุการณ์ COVID-19 ก็เป็นได้

ที่ผ่านมาประเทศพม่าเป็นศูนย์กลางการค้าของสัตว์ป่าผิดกฎหมาย จากการรายงานของ WWF เพราะได้รับอุปสงค์จากจีน ทำให้กระทรวงป่าไม้ได้เปิดไฟเขียวให้สวนสัตว์เอกชนยื่นขอใบอนุญาตเพาะพันธุ์สัตว์ 90 ชนิด ในจำนวนนี้ 20 ชนิดอยู่ในภาวะเสี่ยงสูญพันธุ์ ในที่นี้รวมถึง เสือ ที่เหลืออยู่เพียง 22 ตัว ช้าง และนกนานาชนิด เช่นเดียวกับโลมาอิรวดี และจระเข้สยามที่ถูกเพาะถลกหนัง และเนื้อสำหรับการค้า

ที่มาข่าวและภาพประกอบ: PHYS.org, 11/7/2020