จับตา: ก.ค. 63 ธปท. ช่วยลูกหนี้แล้ว 12.5 ล้านบัญชี ยอดหนี้กว่า 7.2 ล้านล้านบาท

กองบรรณาธิการ TCIJ 12 ก.ย. 2563 | อ่านแล้ว 2952 ครั้ง


ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยความคืบหน้า ณ วันที่ 31 ก.ค. 2563 ช่วยลูกหนี้รายย่อย-ลูกหนี้ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ด้วยการเลื่อนพักชำระหนี้ การขยายเวลาชำระหนี้ การลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ แล้ว 12.5 ล้านบัญชี ยอดหนี้กว่า 7.2 ล้านล้านบาท

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ รายงานเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2563 ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยความคืบหน้าของมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและลูกหนี้ธุรกิจที่ได้รับ ผลกระทบจากโควิด 19 ด้วยการเลื่อนพักชำระหนี้ การขยายเวลาชำระหนี้ การลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ จาก การประเมินล่าสุดคาดว่า จะมีลูกหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือในสัดส่วนสูงที่ไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือต่อไปเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาที่ได้รับ ความช่วยเหลือ และในระยะต่อไป ธปท. ยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลลูกหนี้ตามความสามารถในการชำระหนี้ของแต่ละราย

ตามที่ ธปท. ได้ออกมาตรการและประสานกับสถาบันการเงินเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและลูกหนี้ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก ภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น

นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 1 ธปท. เปิดเผยว่า จากข้อมูลล่าสุด ณ 31 ก.ค. 2563 มี ลูกหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือทางการเงินทั้งสิ้น 7.2 ล้านล้านบาท คิดเป็น 12.5 ล้านบัญชี โดยลักษณะการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน แก่ลูกหนี้รายย่อยและลูกหนี้ธุรกิจ ครอบคลุมทั้งการเลื่อนพักชำระหนี้ การลดภาระผ่อนชำระต่อเดือนด้วยการขยายระยะเวลาชำระหนี้ตาม สัญญา การลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ด้วยการปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ตามสัญญาใหม่

ข้อมูล ณ 31 ก.ค. 2563

          ประเภท                                       ยอดหนี้          บัญชี
                                                  (ล้านล้านบาท)      (ล้านบัญชี)
1.ธพ. และ Non-bank                                       4.3           6.1
 1.1 สินเชื่อธุรกิจ                                           2.6           0.4
 1.2 สินเชื่อรายย่อย                                         1.7           5.7
2SFls                                                    2.9           6.4
รวมทั้งสิ้น                                                  7.2          12.5

ธปท. ได้ขอให้สถาบันการเงิน ประเมินสถานการณ์ของลูกหนี้รายย่อยและลูกหนี้ธุรกิจที่ได้รับความช่วยเหลือทางการเงินในรูป แบบต่าง ๆ คาดว่าจะมีลูกหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือในสัดส่วนสูงที่ไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือต่อไปเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาที่ได้รับความ ช่วยเหลือ โดยลูกหนี้ในส่วนที่เหลือ อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ หรือผ่อนปรนการชำระหนี้ต่อไปหลังจากมาตรการช่วย เหลือที่เคยได้รับสิ้นสุดลง เพื่อรอให้สถานการณ์โควิด 19 คลี่คลายลง และเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น

นายจาตุรงค์ กล่าวว่า ในระยะต่อไป ธปท. ยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลและแก้ไขปัญหาของลูกหนี้ตามความสามารถของ แต่ละราย โดย ธปท. มีโครงการร่วมกับสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ใน ชื่อ "โครงการ DR BIZ การเงินร่วมใจ ธุรกิจไทยมั่นคง" (โครงการดีอาร์บิส) เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ธุรกิจที่มีเจ้าหนี้สถาบันการเงินหลาย รายให้มีกลไกจัดการหนี้กับสถาบันการเงินทุกแห่งได้อย่างเบ็ดเสร็จ

นอกจากนี้ สำหรับลูกหนี้รายย่อย ธปท. ร่วมกับสถาบันการเงินเร่งปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อยด้วยวิธีการรวม หนี้ (debt consolidation) โดยนำสินเชื่อรายย่อยประเภทอื่นที่อยู่ภายใต้ผู้ให้บริการทางการเงินเดียวกันมาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ด้วย วิธีการรวมหนี้กับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเพื่อใช้ประโยชน์จากหลักประกัน เพื่อให้ลูกหนี้สามารถผ่อนชำระเงินต้นและดอกเบี้ยต่อไปได้ตามความ สามารถของแต่ละราย

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: