14 ก.ค. 2563 ศบค. แถลงไทยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 7 คน พบจากสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ รวมผู้ติดเชื้อสะสม 3,227 คน รักษาหายเพิ่ม 1 คน รวมรักษาหายสะสม 3,091 คน รวมผู้เสียชีวิตสะสม 58 คน

14 ก.ค. 2563 Thai PBS รายงานว่า นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวว่า วันนี้ มีผู้ป่วย COVID-19 เพิ่ม 7 คน พบใน State Quarantine ส่วนกรณีผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 2 คน คือเคสของทหารอียิปต์ จ.ระยอง และลูกคณะทูตซูดาน ซึ่งเป็นผลจากการแถลงเมื่อวานนี้ ( 13 ก.ค.) และยังไม่ได้มีการพูดถึงรายละเอียดที่ชัดเจน โดยได้มีการไล่เลียงทั้ง 2 กรณีอย่างละเอียด

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กรณีทหารอียิปต์ ได้รับอนุญาตมาจากต้นทาง คือ สถานทูตฯ ได้ขออนุญาตมายังกระทรวงต่างประเทศ ทำให้กระทรวงต่างประเทศได้ประสานไปยัง ทอ. ก็ได้มีการอนุญาตให้เข้ามา โดยเป็นการเข้ามาตามข้อกำหนด (5) ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 7 ผู้ควบคุมพาหนะ ที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมีกำหนดชัดเจน และในกลุ่มนี้ไม่ได้มีข้อกำหนดให้ตรวจ COVID-19 แต่มีรายงานว่าตรวจมาจากประเทศต้นทางแล้ว

เมื่อพบว่ามีกลุ่มทหารอียิปต์ 31 คน เดินทางมาจากประเทศอียิปต์และออกจากโรงแรม ทาง สธ.และฝ่ายมั่นคง ก็ได้ใช้ความสามารถทุกอย่างในการเจราจา เพื่อขอตรวจ COVID-19 ซึ่งได้รับการปฏิเสธในช่วงแรก นำไปสู่การประสานสถานทูตฯ อียิปต์จนได้รับความร่วมมือ และการตรวจครั้งแรก ผล 1 คน กำกวม แต่ 30 คน ไม่พบเชื้อ จึงต้องตรวจซ้ำจนแน่ชัด แต่เขาก็กลับไปแล้ว

ในส่วนของห้างฯ ทางพื้นที่รายงานว่า กรณีทหารอียิปต์ ในช่วง 11.00-15.00 น. มีคนไปห้างฯ แหลมทองในช่วงเวลาเดียวกัน จำนวน 394 คน และเซ็นทรัลระยอง 1,488 คน และมีอีก 7 คน ตรวจสอบโทรศัพท์ยังไม่ได้ทั้ง 2 ที่ โดยข้อมูลเหล่านี้กรมควบคุมโรคจะติดตามเพื่อให้ทุกคนได้เข้ามาตรวจ หรือหากใครไม่มั่นใจก็สามารถเข้าไปตรวจได้

"ยอมรับหละหลวม" ขอโทษชาวระยอง-กทม.

นพ.ทวีศิลป์ ตอบคำถามสื่อมวลชนคำถามว่าใครจะรับผิดชอบ ต้องชี้แจงว่า ในฐานะ ศบค.เป็นผู้รับผิดชอบ และจะพยายามทำให้ดีที่สุด ในกรณีที่เข้ามาในลักษณะผู้ควบคุมยานพาหนะ ไม่ได้กำหนดให้ต้องมีผู้ควบคุม แม้กระทั่งการตรวจ COVID-19 เมื่อถึงไทย ก็ไม่ได้กำหนดไว้ด้วย ที่กำหนดมีการใช้แอปฯ เพื่อติดตามตัวเท่านั้น ซึ่งตามรายงานระบุว่า มีการลงแอปพลิเคชัน ส่วนมีการใช้งานไหมต้องสอบสวนต่อไป

“ผมเองก็เสียใจที่เจ้าหน้าที่รัฐเองการ์ดตก เราคุยกันเรื่องนี้กันมากเพื่อปรับปรุง สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ต้องขออภัยในทุกๆ เรื่อง และจะรับมาเป็นข้อปฏิบัติเพื่อทำให้ดีที่สุดในทุกจุดที่หละหลวม เราเคยคิดว่าลูกเรือจะมาลงแค่สุวรรณภูมิ แต่ครั้งนี้ไปลงที่อู่ตะเภาซึ่งเราไม่เคยคิดมาก่อน”

ทบทวนผ่อนคลายมาตรการกักตัว-เบรก 8 เที่ยวบินอียิปต์

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า มติที่ประชุม ศบค.เมื่อมี 3 ข้อ คือ 1.ศบค.จะดำเนินการทบทวนการผ่อนคลายมาตรการกักกันของบุคคลในคณะทูต โดยเฉพาะคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรของบุคคลดังกล่าว 2. กต.ดำเนินการยกเลิกการอนุญาตการบินเข้าของเที่ยวบินกองทัพอากาศอียิปต์ ที่ได้รับอนุญาตไปแล้ว 8 เที่ยวบิน 3.ให้ชะลอการอนุญาตการเดินทางเข้าไทยแบบผ่อนคลายมาตรการ State Quarantine ตามข้อกำหนดฉบับที่ 12 (2) กลุ่มที่มีเหตุยกเว้นหรือได้รับอนุญาต, (3)บุคคลในคณะทูต , (11) กลุ่มนักธุรกิจที่เดินทางเข้ามาในระยะสั้น ไปก่อน และมีการทบทวนมาตรการควบคุมให้สร้างความมั่นใจกับประชาชนอีกครั้ง

“ขออภัยพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะที่ กทม. และ จ.ระยอง ที่มีคนเป็นพันคน เด็กๆ ต้องปิดโรงเรียนกว่า 10 โรงเรียน เป็นเรื่องที่เราไม่สบายใจ โดยเราจะดูแลรายละเอียดให้ดีกว่านี้ เราเสียใจเป็นอย่างยิ่งและจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด”

ยันไม่ล็อกดาวน์ ระยอง

นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่าทหารอียิปต์ ออกเที่ยวกลางคืนหรือไม่ โดยยืนยันว่าไม่ได้ออกจากโรงแรมในเวลากลางคืน เพราะอยู่ในช่วงการทำภารกิจ และกลับมาถึงไทยในช่วงค่ำมาก ส่วนกรณีการเข้ามาแบบวีไอพี ย้ำว่ารายนี้ไม่ได้เป็นวีไอพี เป็นการเข้ามาปกติตามข้อกำหนด ส่วนลูกเรือที่เข้ามาลักษณะนี้จะอยู่โรงแรมโนโวเทลที่ กทม. เพราะเข้ามาที่สุวรรณภูมิทั้งหมด มีเพียงเคสนี้ที่ไปอู่ตะเภา

“การติดเชื้อของชาวอียิปต์ใน 14 วัน หากมีการติดเชื้อของคนในพื้นที่แล้วจัดการได้อยู่ ก็ไม่จำเป็นต้องล็อกดาวน์ แต่หากไม่ได้รับความร่วมมือ ควบคุมไม่ได้ก็ต้องดำเนินมาตรการเพิ่มเติมขึ้นมา ในนาม ศบค.ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้”

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า รับทราบและมองเห็นว่าหลายเรื่องเป็นเรื่องใหม่ หลายเรื่องคาดไม่ถึง ไม่ได้รู้ว่าจะมีรายละเอียดมากมาย ข้อกำหนดที่ทำไป สิ่งที่เกิดขึ้นต้องปรับปรุงกันอยู่เรื่อยๆ เป็นบทเรียนต่อไป ทุกภาคส่วนทำงานอย่างเต็มที่ ต้องขออภัย และขอบคุณทุกคนที่ร่วมมือกันอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่าประชาชนที่ได้รับผลกระทบสามารถเรียกร้องเยียวยาได้หรือไม่ จากความหละหลวมของ ศบค.นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว เช่น สนามมวย ทองหล่อ ก็ยังไม่เคยมีการพูดคุยกันว่าจะต้องมีการเยียวยา หากมีการพูดคุยก็ต้องพิจารณาในทุกที่ ต้องพิจารณาในอนาคต เพราะเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งจะพยายามจัดการให้ดีที่สุด