เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และสาธารณสุขของบังกลาเทศยืนยันว่ามีผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาที่อาศัยอยู่ในบริเวณค่ายผู้ลี้ภัยเมืองค็อกซ์ บาซาร์ ชายแดนบังกลาเทศ ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จำนวน 2 ราย โดยมาจากในค่ายผู้ลี้ภัยหนึ่งคน ส่วนอีกรายอาศัยอยู่ในชุมชนท้องถิ่นใกล้กับค่าลี้ภัย โดยการค้นพบผู้ติดเชื้อดังกล่าวส่งผลให้เกิดความหวาดกลัวภายในค่ายซึ่งมีผู้ลี้ภัยอาศัยอยู่ราว 800,000 คน ในสภาพที่แออัดและขาดสุขอนามัย ขณะที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ(UNHCR) ได้ส่งเจ้าหน้าที่เพื่อสืบสวนและแยกตัวผู้ป่วยแล้ว
UNHCR เผยว่าเจ้าหน้าที่พยายามเร่งการแกะรอยของผู้ติดเชื้อ และจะดำเนินการตามแนวทางขององค์การอนามัยโลกต่อมาตการการกักตัง พร้อมยืนยันว่ามีการวางมาตรการต่างๆ เพื่อรับมือกับทั้งเคสผู้ป่วยต้องสงสัยและผู้ป่วยยืนยัน และบุคลากรทางการแพทย์ก็มีอุปกรณ์ป้องกันตัวที่ครบถ้วน
ด้าน ดร.Shamim Jahan ผู้อำนวยการองค์กรเด็ก Save the Children ประจำบังกลาเทศ เผยว่าการระบาดของ COVID-19 ทำให้ระบบสาธารณสุขแทบจะรับไม่ไหว เพราะมีเครื่องช่วยหายใจอยู่เพียง 2,000 เครื่อง ห้บริการแก่ประชากร 160 ล้านคน ขณะที่ที่ค่ายผู้ลี้ภัยซึ่งมีคนอยู่เกือบ 1 ล้านคนยังไม่มีแม้เตียงสำหรับผู้ป่วยขั้นวิกฤต
“COVID-19 ได้แพร่เข้าไปถึงค่ายผู้ลี้ภัยขนาดใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว และมีความเป็นไปได้ที่จะพรากชีวิตคนอีกเป็นหมื่นๆ โรคระบาดครั้งนี้อาจทำให้บังกลาเทศก้าวถอยหลังไปหลายสิบปี” ดร.Shamim Jahan กล่าว
ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Aljazeera, 15/5/2020
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ