แอมเนสตี้แถลงหลังนักกิจกรรมถูกจับอีกหนึ่งคนเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2563

กองบรรณาธิการ TCIJ 15 ส.ค. 2563 | อ่านแล้ว 1610 ครั้ง

แอมเนสตี้แถลงหลังนักกิจกรรมถูกจับอีกหนึ่งคนเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2563

ผู้อำนวยการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เรียกร้องปล่อยตัวนักกิจกรรม ยกเลิกข้อหาทั้งหมด ให้หาช่องทางสื่อสารในทางเลือกหรือริเริ่มการเจรจากับผู้ประท้วง โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการชุมนุมอย่างสงบ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และแกนนำเยาวชนปลดแอก ตามหมายจับของศาลอาญาในฐานความผิด มาตรา 116 เบื้องต้นตำรวจนำตัวไว้ที่ สน.ปากเกร็ด แล้วจะฝากขัง สน.สำราญราษฏร์

ปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวดังนี้

“การจับกุมในวันนี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการปราบปรามสิทธิในเสรีภาพการชุมนุมอย่างสงบโดยรัฐ แทนที่จะให้ความคุ้มครองกับผู้ชุมนุมโดยสงบ ตำรวจกลับใช้กฎหมายปราบปราม เสมือนเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อปิดปากผู้แสดงความเห็นหรือวิจารณ์รัฐบาลอย่างสงบ"

“แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียกร้องทางการให้ปล่อยตัวพริษฐ์ ชิวารักษ์ โดยทันที รวมทั้งยกเลิกข้อหาทั้งหมด ทั้งต่อนักกิจกรรมอีก 2 คนที่ถูกจับเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว พร้อมกับผู้ประท้วงคนอื่นๆ เนื่องจากพวกเขาเพียงแต่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ เรายังกระตุ้นทางการให้หาช่องทางสื่อสารในทางเลือก หรือริเริ่มการเจรจากับผู้ประท้วง โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการชุมนุมอย่างสงบ

“ความถดถอยด้านสิทธิมนุษยชนนับแต่รัฐบาลปัจจุบันเข้าดำรงตำแหน่ง เป็นปรากฏการณ์ที่น่าตกใจอย่างยิ่ง พื้นที่ของการเคลื่อนไหวและการแสดงออกอย่างสงบ จะยิ่งหดตัวลงมากขึ้น หากประชาคมระหว่างประเทศไม่เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงโดยทันที”

ข้อมูลพื้นฐาน

ในวันศุกร์ที่ 14 ส.ค. 2563 ตำรวจได้จับกุมพริษฐ์ ชิวารักษ์ สมาชิกสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ขณะที่เขากำลังเดินทางไปเข้าร่วมการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่จังหวัดนนทบุรี ใกล้กับกรุงเทพฯ ที่เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย

พริษฐ์อาจได้รับโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี โดยเขาถูกดำเนินคดีในข้อหายุยงปลุกปั่นเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน มั่วสุมกันใช้กำลังประทุษร้าย และร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, 215, 385 ตามลำดับ ละเมิดพระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉิน ความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะเป็นความผิดตามมาตรา 114 พระราชบัญญัติจราจรทางบก มาตรา 19 พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง และร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดตามมาตรา 4 ของพระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง

การจับกุมในวันนี้เป็นผลมาจากความเกี่ยวข้องกับการประท้วงเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2563 ในวันที่ 7 ส.ค. 2563 แกนนำอีกสองคนได้แก่ อานนท์ นำภาและภานุพงศ์ จาดนอกได้ถูกจับกุม และถูกนำตัวไปสถานีตำรวจ จากนั้นมีการนำตัวไปขอฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพ ด้วยข้อหาเดียวกัน

นับแต่มีการประกาศใช้พระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2563 เจ้าหน้าที่ทำการควบคุมตัวและแจ้งข้อหาอาญาอย่างต่อเนื่องต่อบุคคลที่เข้าร่วมการประท้วงและกิจกรรมอย่างสงบ ผู้ประท้วงยังต้องเผชิญการข่มขู่คุกคามจากตำรวจในหลายกรณี เพียงเพราะเข้าร่วมการประท้วงอย่างสงบ โดยเป็นการชุมนุมอย่างสงบที่มีแกนนำเป็นนักเรียนและนักศึกษา ซึ่งเรียกร้องให้จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ให้รัฐบาลลาออก และให้ยุติการคุกคามของตำรวจ

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: