กกพ. นัดถก กฟผ. ภายใน เม.ย. 2563 นี้ แก้ปัญหาสำรองไฟฟ้าล้นระบบ จากผลกระทบของ COVID-19

กองบรรณาธิการ TCIJ 16 เม.ย. 2563 | อ่านแล้ว 2344 ครั้ง

กกพ. นัดถก กฟผ. ภายใน เม.ย. 2563 นี้ แก้ปัญหาสำรองไฟฟ้าล้นระบบ จากผลกระทบของ COVID-19

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เตรียมหารือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภายในเดือน เม.ย.2563 เกี่ยวกับแผนเดินเครื่องโรงไฟฟ้า เพื่อแก้ปัญหาสำรองไฟฟ้าล้นระบบ การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ให้ยอดการใช้ไฟฟ้าลดต่ำ สำรองไฟพุ่งเกิน 40% ในขณะที่การแก้ปัญหาระยะยาวโดยการปรับแผน PDP 2018 ใหม่อีกรอบหลังจากที่มีฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 ไปแล้วนั้น ทาง กกพ.พร้อมรับนโยบายและให้ความเห็นตามกฎหมายต่อไป | ที่มาภาพประกอบ: Daniel X. O'Neil (CC 2.0)

Energy News Center รายงานเมื่อวันที่ 13 เม.ย. 2563 ว่า นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) และในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เตรียมหารือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เพื่อปรับแผนการสั่งเดินเครื่องโรงไฟฟ้าใหม่ หลังพบการใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยมีแนวโน้มลดลงจากปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID-19 ซึ่งผลให้ปริมาณสำรองไฟฟ้าของประเทศเพิ่มสูงขึ้นและกลายเป็นทุนค่าไฟฟ้าให้ประชาชนต้องแบกรับภาระมากขึ้น

โดยขณะนี้ กกพ.อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลการใช้ไฟฟ้าของประชาชน ซึ่งคาดว่าจะรวบรวมเสร็จในสัปดาห์นี้ และจะได้ทราบข้อมูลว่า การใช้ไฟฟ้าของกลุ่มใดลดลงและกลุ่มใดสูงขึ้น เบื้องต้นคาดว่ากลุ่มอุตสาหกรรมจะใช้ไฟฟ้าลดลงและกลุ่มครัวเรือนจะใช้ไฟฟ้าสูงขึ้น จากมาตรการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อเพื่อชาติ” ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลตัวเลขที่ชัดเจนแล้วจะประชุมร่วมกับ กฟผ. เพื่อวางมาตรการปรับแผนกำลังการสั่งเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าใหม่ ว่าควรปรับลดกำลังผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าใด และปริมาณเท่าไหร่ และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจะแก้ไขอย่างไร เป็นต้น โดยคาดว่าจะประชุมร่วมกับ กฟผ.ได้ภายในเดือนเม.ย. 2563 นี้

ส่วนกรณีที่สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) อาจจะเสนอปรับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ พ.ศ.2561-2580 หรือ PDP 2018 อีกรอบหลังสถานการณ์ปัญหา COVID-19 คลี่คลาย เพื่อให้การวางแผนกำลังผลิตไฟฟ้าในระยะยาวสอดคล้องกับการพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่ใกล้้เคียงกับข้อเท็จจริงมากขึ้น เพื่อไม่ให้มีการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าไว้ล่วงเกินความจำเป็นจนเกิดปัญหาสำรองไฟฟ้าสูง จนเป็นภาระต้นทุนค่าไฟฟ้ากับประชาชน นั้น นายคมกฤช กล่าวว่า ขณะนี้ กกพ. ยังไม่ได้หารือถือถึงเรื่องดังกล่าว แต่หากกระทรวงพลังงานมีนโยบายปรับแผน PDP 2018 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 ที่ใช้อยู่ในขณะนี้อีกครั้ง ทาง กกพ.ก็พร้อมให้ความเห็นตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตามเห็นว่า ช่วงระยะสั้นเพื่อแก้ปัญหาปริมาณสำรองไฟฟ้าที่สูงในระบบ กกพ.จะหารือกับ กฟผ.เพื่อปรับแผนการสั่งเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าก่อน ซึ่งสามารถขอความร่วมมือโรงไฟฟ้าให้ชะลอหรือหยุดผลิตไฟฟ้าบางโรงที่ต้นทุนสูงได้ และจะเห็นผลด้านปริมาณไฟฟ้าให้การผลิตเหมาะสมกับการใช้ในระยะที่เกิดปัญหา COVID-19 ได้รวดเร็วกว่าการปรับแผน PDP เป็นแผนผลิตไฟฟ้าระยะยาว ซึ่งเกี่ยวข้องกับการลงทุนเป็นส่วนใหญ่

Energy News Center รายงานว่าผลกระทบจาก COVID-19 ต่อเศรษฐกิจในประเทศ และทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าลดต่ำลงมาก จนปริมาณสำรองไฟฟ้าในระบบพึ่งสูงเกินกว่า 40% ในปี 2563 นั้นมีทางเลือกในการแก้ไข คือ จัดเตรียมหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าและการ shutdown โรงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพต่ำ แต่มีค่าความพร้อมจ่าย (Availablity Payment - AP) ในอัตราที่สูง ซึ่งจะช่วยลดปริมาณสำรองลง และลดภาระต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ประชาชนจะต้องจ่ายให้ได้มากที่สุด โดยที่สั่งเดินเครื่องโรงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงให้เต็มกำลังการผลิตเพื่อให้ได้การผลิตไฟฟ้าที่มีต้นทุนต่ำ แต่ยังสามารถรักษาความมั่นคงของระบบเอาไว้ได้และการชะลอการสร้างโรงไฟฟ้าที่จะเข้าระบบในระยะสั้นออกไปก่อน

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
สื่อเผย ก.พลังงาน เตรียมปรับแผน PDP หลังมีแนวโน้มไฟฟ้าสำรองล้นระบบจากผลพวง COVID-19 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: