นาย Josephine Teo รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานสิงคโปร์ เผยว่าสถานการณ์ COVID-19 ส่งผลต่อตลาดแรงงานสิงคโปร์อย่างหนักที่สุด เพราะมีอัตราการว่างงานสูงสุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งการจ้างงานก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาสแรกของปีนี้ โดยอัตราการว่างงานค่อยๆ เพิ่มจำนวนขึ้นจาก 2.3% ในไตรมาสก่อนหน้า เพิ่มเป็น 2.4% ขณะที่อัตราการว่างงานของชชาวสิงคโปร์ก็เพิ่มจาก 3.3% เป็น 3.5%
นอกจากนี้ในไตรมาสแรกของปี มีพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการปิดตัวของธุรกิจต่างๆ ราว 1,537 คน เพิ่มจากไตรมาสก่อนหน้ามากกว่าสองเท่าที่ 628 คน โดยที่กระทรวงแรงงานเผยว่าได้พยายามอย่างดีที่สุดสำหรับคนหางาน และมียุทธศาสตร์การจ้างงานหลัง COVID-19 mujมีเป้าหมายว่าจะสร้างงานให้ได้มากถึง 100,000 ตำแหน่ง
นาง Martha Liv ซึ่งเป็นชาวต่างชาติที่ไปทำงานในสิงคโปร์ เผยว่าเธอถูกลดเงินเดือนราว 20% และไม่ได้ลดค่าเช่าบ้านแม้แต่ดอลลาร์เดียว ส่งผลให้แผนที่จะกลับไปซื้อบ้านเมื่อกลับบ้านเกิดในยุโรปแล้วต้องยกเลิกกระทันหัน นอกจากนี้เธอยังต้องเอาเงินออมออกมาใช้เพื่อรักษากำลังซื้อของเธอให้สามารถใช้จ่ายได้อย่างปกติ
ขณะที่นาย Lee Ju Ye นักเศรษฐศาสตร์จาก Maybank Kim Eng บริษัทในเครือของ Maybank เผยรายงานของบริษัทพบว่าภายในสิ้นปีจะมีคนตกงานมากถึง 150,000-200,000 คน โดยชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศคาดว่าจะตกงานราว 60% แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามจะประคับประคองสถานการณ์จนอัดฉีดเงินไปแล้ว 4 ครั้งราว 1 แสนล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 2 ล้านล้านบาท) แล้วก็ตาม
ที่มาข่าวและภาพประกอบ: South China Morning Post, 16/6/2020
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ