จับตา: โครงการรับมือน้ำท่วม-เพิ่มประสิทธิภาพเก็บน้ำฤดูฝนปี 63 งบ 5 พันล้าน

กองบรรณาธิการ TCIJ 17 ก.ย. 2563 | อ่านแล้ว 3057 ครั้ง


เปิดรายละเอียด ครม. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินโครงการเพื่อเตรียมการรับมือ บรรเทาปัญหาน้ำท่วม และเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำในฤดูฝน ปี 2563 ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ งบประมาณ 5,082 ล้านบาท | ที่มาภาพประกอบ: สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2563 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 5,082.7605 ล้านบาทให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เพื่อดำเนินโครงการเพื่อเตรียมการรับมือ บรรเทาปัญหาน้ำท่วม และเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำในฤดูฝน ปี 2563 และให้พิจารณาดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้

1. ให้หน่วยรับงบประมาณ ได้แก่ จังหวัด 30 แห่ง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและกรุงเทพมหานคร มีฐานะเป็นหน่วยรับงบประมาณตามกฎหมายวิธีการงบประมาณ และเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินโครงการดังกล่าวข้างต้น ของกระทรวงมหาดไทย รวมถึงกรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เป็นผู้เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามขั้นตอนของระเบียบและแนวทางที่เคยปฏิบัติต่อไป

2. ให้หน่วยรับงบประมาณที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของแผนงาน/โครงการอย่างเคร่งครัด และเร่งรัดการดำเนินการเข้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภายในเดือนกันยายน 2563 ตามหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติที่กระทรวงการคลังกำหนด รวมทั้งจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณโดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการและที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ เพื่อทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป

3. ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขากองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการ รวมถึงสรุปผลสัมฤทธิ์ที่ได้รับจากการดำเนินโครงการ และรายงานผลการดำเนินการต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไปด้วย

สาระสำคัญของโครงการเพื่อเตรียมการรับมือ บรรเทาปัญหาน้ำท่วม และเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำ ในฤดูฝนปี 2563

1. ความเป็นมา

สืบเนื่องจากการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน 2563 ตาม 8 มาตรการเตรียมความพร้อมรองรับน้ำฝน ปี 2563 สำนักงานทรัพยากรน้ำ (สทนช.) พบว่าในช่วงเดือนสิงหาคม 2563 มีพื้นที่เฝ้าระวังที่อาจเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 32 จังหวัด 140 อำเภอ 366 ตำบล ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากพายุดีเปรสชั่นซินลากู และจะต้องเฝ้าระวังเพิ่มมากขึ้นในเดือนกันยายน 2563 โดยมีพื้นที่ที่จะต้องเฝ้าระวังในพื้นที่ 54 จังหวัด 317 อำเภอ 1,566 ตำบล จากการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และยังคงต้องมีการเตรียมการเพื่อรับมือพายุดีเปรสชั่นฮีโกสซึ่งจะพัดเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย ประกอบกับอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามันทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ดังนั้น เพื่อเป็นการลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนและทำให้การบริหารจัดการน้ำในฤดูฝน ปี 2563 สามารถดำเนินการได้ตาม 8 มาตรการเตรียมความพร้อมรองรับน้ำฝน ปี 2563 เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที สทนช. ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) จึงได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาแผนงานเร่งด่วนเพื่อเตรียมการรับมือ แก้ไข และบรรเทาปัญหาน้ำท่วม รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำในฤดูฝนปี 2563 เพื่อสำรองไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง ปี 2563/64 อีกทั้งสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยได้ดำเนินการสำรวจตรวจสอบแผนงาน/โครงการเร่งด่วนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว สามารถสรุปแผนงานโครงการเพื่อเตรียมการรับมือ บรรเทาปัญหาน้ำท่วม และเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำในฤดูฝนปี 2563 ดำเนินการโดย 3 กระทรวง 6 หน่วยงานและจังหวัด 30 แห่ง วงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 5,082.7605 ล้านบาท

2. วัตถุประสงค์

1.1 เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากภัยแล้งและน้ำท่วม

1.2 เพื่อสนับสนุนด้านการเกษตร เช่น เกษตรแปลงใหญ่ และด้านการดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชน

1.3 เพื่อส่งเสริมให้เกิดการสร้างอาชีพ รายได้และการจ้างแรงงานให้กับประชาชน และผู้ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งและอุทกภัยในระดับชุมชน

1.4 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ

3. พื้นที่ดำเนินการ

พื้นที่ทั้งประเทศ

4. แนวทางการดำเนินการ

1. เป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์ในการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอันเนื่องมาจากภัยแล้งและน้ำท่วมในพื้นที่ และมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ หากไม่ดำเนินการจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและทางราชการ

2. เป็นโครงการที่มีความพร้อมสามารถดำเนินการได้ทันที โดยให้หน่วยงานที่จะขอรับการสนับสนุนงบประมาณจัดทำแบบรูปรายการ และประมาณราคาค่าก่อสร้าง (ปร.4 ปร.5) ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางกำหนด

3. ให้เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่าย งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินการโดยพิจารณาแผนงานโครงการให้สอดคล้องกับเงื่อนไขการขอรับจัดสรร

5. แผนงาน/โครงการที่เห็นควรเสนอขอรับการสนับสนุบงบกลางปี 2563 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น

สทนช. ได้สรุปโครงการบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมในพื้นที่ 60 จังหวัด ที่จะขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการเร่งด่วนในปี 2563 ที่สามารถแก้ไข และบรรเทาปัญหาน้ำท่วม รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำได้อย่างทันท่วงที และแผนงานที่มีสถานะพร้อมดำเนินการได้ทันที จำนวนทั้งสิ้น 9 โครงการ งบประมาณรวม 5,082.7605 ล้านบาท จำแนกตามหน่วยงาน จำนวน 6 หน่วยงานและจังหวัด 30 แห่ง ดังนี้

ลำดับ หน่วยงาน จำนวน
(โครงการ)
งบประมาณ
(บาท)
  รวม 9 5,082.7605
1 กรมทรัพยากรน้ำบาดาล 1 706.5962
2 กรมทรัพยากรน้ำ 2 1,796.1018
3 กรมชลประทาน 3 1,482.1930
4 กรุงเทพมหานคร 1 340.000
5 กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 1 23.6007
6 จังหวัด 30 แห่ง 1 734.2688

 

6. ประเภท/ลักษณะงาน

1. ขุดลอกและปรับปรุงแหล่งน้ำเดิม 2. ระบบประปา 3. งามซ่อมแซม/ปรับปรุง 4. ขุดแหล่งเก็บน้ำใหม่ 5. บ่อน้ำบาดาล 6. ฝาย/ฝายชะลอน้ำ 7. ระบบส่งน้ำและระบบกระจายน้ำ 8. ระบบระบายน้ำชุมชน 9. ปรับปรุงสิ่งกีดขวางทางน้ำและกำจัดวัชพืช 10. เครื่องจักร/เครื่องมือ

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: