19 มี.ค. 2563 สธ.ยืนยันผู้ป่วยเพิ่มอีก 60 คน รวมผู้ป่วยสะสม 272 คน โดยเฉพาะผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในสถานบันเทิง ติดทั้งผับ ตั้งแต่ 12 มี.ค.พบผู้ป่วยในกลุ่มนี้ทั้งหมด 57 คน ส่วนสนามมวย 52 คน ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้ทำให้ผู้ป่วยสะสมในไทยเพิ่มมากขึ้น
19 มี.ค. 2563 Thai PBS รายงานว่า นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อ COVID19 โดยระบุว่า วันนี้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 60 คน รวมผู้ป่วยสะสม 272 คน โดยพบกลุ่มเดิมสนามมวย 12 คน ผู้ป่วยที่เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา 5 คน ส่วนกลุ่มสถานบันเทิง 14 คน ย่านทองหล่อ สวนหลวง สุขุมวิท ครอบคลุมดีเจ พนักงานทำความสะอาด แคชเชียร์
ส่วนกลุ่มรายใหม่ เดินทางกลับจากต่างประเทศ 9 คนคือ ไต้หวัน ฝรั่งเศส ส่วนกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดต่างชาติ 3 คน ผู้ทำงานในสถานที่แออัด 3 คน ในจำนวนนี้รอการยืนยันโรค 4 คน โดย 1 คนเป็นผู้สื่อข่าว
“สธ.ได้รับรายงานผู้ป่วยรายใหม่ ซึ่งสัมผัสเสี่ยงสูงในสถานบันเทิง เรียกว่าติดทั้งผับ ตั้งแต่ 12 มี.ค.พบผู้ป่วยในกลุ่มนี้ทั้งหมด 57 คน และตั้งแต่ 14 มี.ค.พบผู้ป่วยกลุ่มสนามมวย 52 คน ทั้งสองกลุ่มนี้ทำให้ผู้ป่วยสะสมในไทยเพิ่มมากขึ้น”
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ในสนามมวย ผู้ติดเชื้อส่วนหนึ่งเป็นผู้ชมในต่างจังหวัด และมีโอกาสนำเชื้อไปติดคนใกล้ชิดในภูมิลำเนา นอกจากนี้พบว่าบางคนไม่กักตัวเอง ซึ่งเป็นอันตรายในการแพร่โรคไปสู่ผู้อื่น ทำให้การควบคุมโรคทำได้ยากลำบาก ขอแนะนำประชาชนให้งดและลดการเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงของการระบาด ถ้ารู้ตัวว่าตัวเองเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ขอให้รับผิดชอบต่อตัวเองและสังคม ด้วยการกักตัวเองที่บ้านและปฏิบัติตามคำแนะนำของ สธ.อย่างเคร่งครัด และรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่เมื่อมีอาการและแจ้งประวัติความเสี่ยง
“ผู้ป่วยกลุ่มที่เพิ่มมากขึ้น 75-80% เป็นผู้ป่วยที่ทราบแหล่ง ยังอยู่ในวงจำกัด โดยเป็นกลุ่มที่สัมผัสกับสนามมวยและผับ ส่วนผู้ป่วยรายใหม่พบจากการเดินทางมาจากต่างประเทศ แม้ว่าจะเจอผู้ป่วยรายใหม่ แต่ส่วนใหญ่มีอาการไม่มาก”
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ส่วนกลุ่มที่เดินทางกลับจากอิตาลี ขณะนี้อยู่ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ 83 คน ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการทุกคนไม่พบเชื้อ แต่ยังต้องเฝ้าระวังจนครบ 14 วัน ส่วนการเตรียมพร้อมโรงเรียนแพทย์ เหล่าทัพ ตำรวจ และเอกชน เพื่อรองรับผู้ป่วย โดยสำรองเตียงทั่วประเทศมากกว่า 7,000 เตียง ถ้ามีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นจะพิจารณาเปิดโรงพยาบาลสนาม พร้อมกับสำรองยาและเวชภัณฑ์อย่างพอเพียง
“ขอให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงกักตัวอย่างจริงจังไม่น้อยกว่า 14 วัน และสังคมต้องช่วยกันสังเกต ถ้าพบเห็นผู้ฝ่าฝืนให้แจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคในพื้นที่ ถ้าติดต่อใครไม่ได้ ให้ติดมาที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 หรือเบอร์โทรศัพท์ตามปกติของกระทรวงสาธารณสุข”
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ